วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

คิดวันละอย่าง # 226

คนโกงไม่รู้สึกผิด

วันนี้อินกับเรื่องโกงเพราะใกล้ตัวมาก 
คนเพียงคนเดียวที่มีความโลภไม่สิ้นสุด 
ก่อให้เกิดผลกระทบที่มากมายนัก 
มากจนคนนั้นคิดไม่ถึง เพราะคิดได้แค่ประโยชน์ของตัวเอง 
ทั้งๆที่การโกงนั้นเป็นวิธีการที่ผิดศีลธรรม
โกงเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
กลับทำกันทั่วไปราวกับถือใบอนุญาตทำชั่ว

และไปเจอที่ ผศ.ดร.ธานี ชัยวัฒน์ พูดถึงเรื่องโกง
ก็กระจ่างใจมาบ้าง คือ 

ทัศนคติ ระบบสังคมวัฒนธรรมไทยเอื้อการโกง
เพราะเรื่องการเป็นคนดีกับความดีในสังคมไทยต่างกัน 
จากการสำรวจคนไทยกลุ่มตัวอย่างเรื่องนิยามของคนดี” 
พบว่าส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าคนดีคือ คนที่เชื่อฟังผู้ใหญ่
ประมาณไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน
ต่อให้เห็นคนโกงก็จะไม่บอกว่าสิ่งที่ทำนั้นผิด 
ยิ่งถ้าคนโกงมีตำแหน่ง บางคนถึงกับเข้าไปเป็นพวก
เพื่อหวังให้เศษเสี้ยวของผลประโยชน์ที่จะตกมาถึงตัว
แต่การทำความดีเป็นเรื่องสาธารณะ 
ดังนั้นเวลาโกงไปแล้ว ก็ทำบุญกันไป
ถือว่าชดเชยกันได้ คือ มีแต้มบุญะสม
ทำชั่วต่อไป ไม่เป็นไรมีใบอนุญาตแล้ว
ทัศนคติอันนี้โอละพ่อมาก  
การโกงจึงเป็นเรื่องปกติไป 
จากน้อยๆไม่เป็นไร ไปจนถึงมากๆก็ไม่เป็นไร
โกงไปตามๆกัน กลายเป็นพลังแพร่ระบาด
เขาโกงได้ เราก็โกงได้
และการเพิกเฉยของสังคมกับเรื่องโกง
มันทำให้การโกงมันดำรงอยู่ได้และทำได้ง่าย
เปิดช่องโหว่ เชื้อเชิญการโกงกันเลย

ที่หนักข้อ คือ เอาความโกง การเอาเปรียบไปผูกโยงกับความฉลาด 
คนถูกโกง ถูกเอาเปรียบ คนที่ซื่อสัตย์ต้องเดือดร้อน เจ็บปวด 
คนโกงจะรู้สึกว่าพวกนี้โง่ที่เอาตัวรอดไม่ได้ 

อีกอย่าง คือ การเป็นครอบครัว
ไม่ว่าจะครอบครัวจริง หรือ การทำงานเป็นครอบครัว
คนมักรู้สึกว่าถ้าเปิดโปง มันน่าละอาย
แปลกนะ ไม่เปิดโปงนี่ซิน่าละอายกว่า
เรากิดมาทั้งที ทำไมไม่ช่วยกันสร้างระบบที่ทำให้คนรู้สึกผิด
ทำให้ความดีกับคนดีเป็นเรื่องเดียวกัน
ไม่ต้องอ้างเหตุผลครอบครัวอยู่เหนือความถูกต้อง

ความเป็นคนดี กับ การทำความดี มันเป็นเรื่องเดียวกัน !!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น