วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 124


รถขยะสีชมพู
มองเห็นรถขยะสีชมพูอยู่ข้างหน้า...เออ มันน่ารักดี
ทำไมเราต้องปกปิดขยะด้วยสีเข้ม สีดำด้วยล่ะ
หรือเวลาเลือกสีสำหรับรองเท้า หรือ อะไรก็ตาม
เรามักคิดว่า...เปื้อนแล้วจะได้มองไม่เห็น
แต่มันก็ “เปื้อน” อยู่ไม่ใช่หรือ
เราเลือกสีสว่าง..ถ้ามันเปื้อน มันเห็นชัด ก็ดีนะ จะได้ทำความสะอาดซะ
ถ้าดำๆกลืนๆกันไป มันเท่ากับหลอกตัวเองว่ามันไม่เปื้อน
จึงละเลยไป...ลืมทำความสะอาด !!

แนวคิดสีเข้มปกปิด “ความเปื้อน” นี่มันเรื้อรังมานาน
กลับมาถามตัวเองว่า...มันใช่หรือ...
เราจะปกปิดมันไปทำไม ของเปื้อน คือ มันเปื้อน..ต้องทำให้มันสะอาด
ยิ่งปิด ก็ยิ่งมอมมั๊ย !!
ในชีวิตคนนี่เราปกปิดกันเยอะเหมือนกันนะ
ด้วย...ความสวย ความงาม...แม้กระทั่งการทำดี
แล้วไอ้ที่ไม่ดี มันยังอยู่มั๊ย...มันก็ยังอยู่ตรงนั้นแหละ

เลิกปกปิดกันไปเลยมั๊ย รบกับมันเลยมั๊ย
มันอาจยากนะ...แต่ว่า...
อย่างน้อย มันเป็นการยอมรับความจริง ตัวตนด้านมืดๆที่มีอยู่
จะได้ไม่หลอกตัวเองว่า...นางฟ้า เทวดา สะอาด ดี สวย
เห็นกันให้จะจะไป...มันจะได้พัฒนากันมั่ง
อะไรหลายอย่างไม่ดีที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา
เราจะได้ฤกษ์ขัดเกลามันเสียที 
รถขยะคันเดียว...คิดไปได้ถึงเพียงนี้นะคนเรา

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 123

ขันติมี อุเบกขามา เมตตาและปัญญากำกับ

ขันติมี คือ 
ความอดทน(ระงับอารมณ์และความรู้สึก) ความอดกลั้น (ระงับหรือการควบคุมกิริยา)
อุเบกขามา คือ 
เงื่อนไขต่างๆน้อยลง ไม่เยอะๆ
เมตตาและปัญญากำกับ คือ 
มีขอบเขตชัด ไม่ทำอะไรง่าวที่ตัวเองจะเสียใจทีหลัง ไม่มี “รู้งี้...” 

เราอยู่กับปัจจัยทั้งภายในและภายนอกตัวเอง
เราถูกกระทบจากปัจจัยทั้งหลายทุกวันทุกเวลา
เราเป็นหงุดหงิด อารมณ์เสีย เป็นทุกข์
เราอยากด่า !! 

พระท่านว่าเรื่องที่จะด่ากันนั้น มี 10 เรื่อง (อักโกสวัตถุ มีอยู่ในพระธรรมปิฎก)... ให้เลิกด่า
1.ชาติ ได้แก่ ชนชั้นหรือที่กำเนิดของคน 
2. ชื่อของคน
3. โคตร คือ ตระกูลของคน
4. การงานของคน
5. ศิลปะของคน
6. โรคของคน
7. รูปพรรณหรือสัณฐานของคน
8. กิเลสของคน
9. อาบัติของคน
10. คำสบประมาทอย่างอื่นของคน

ถ้าขันติมี อุเบกขาจะมา...แล้วเมตตาและปัญญาจะถึงเลย 
ทีนี้..ทะลึ่งพ้นน้ำ..เบิกบานเลย 

เริ่มที่ “ขันติ” อย่าเพิ่ง “ขันแตก” (เดี๋ยวจะฮาเกินไป)



วันอังคารที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 122

อย่าหาเรื่อง เคืองขุ่น ให้วุ่นจิต
มองและคิด สนุกไว้ ให้สุขขี
เวลานั้น เหลือน้อย ใช้สอยดี
คือวิธี ม่วนไว้ ใจเบิกบาน
อยากจะแต่ง แต่งไป ไม่จำกัด
อยากจะ วิ่งสู้ฟัด อย่าได้ถอย
อยากจะ "ภาวนา" อย่ามัวคอย
ของอร่อย ต้องกิน ให้ฟินไป
เพื่อนพี่น้อง คล้องใจ ให้เหนียวแน่น
ไม่คั่งแค้น เคืองใคร ให้ใจหมอง
แผ่นดินไทย รักษ์ไว้ ให้เรืองรอง
เมตตาต้อง แผ่ไป ใจสำราญ 
ชีวิตเดียว ใช้ไป ให้เป็นสุข
อย่าเป็นทุกข์ มากไป ไม่หนุกหนาน
จะคิดทำ อะไร พอประมาณ
สังขารนั้น ไม่เที่ยง เพียงพอไป 

วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560


อย่ามองข้ามใจของเรา
หลวงพ่อไพศาล วิสาโล

ทุกครั้งที่เราทุกข์ใจอย่าเพิ่งโทษสิ่งภายนอกตะพึดตะพือ ให้กลับมาดูใจเราด้วยว่าใจเราไปเปิดทางยินยอมหรือผสมโรงให้ความทุกข์ต่างๆ จากภายนอกเข้ามาเล่นงานใจเราหรือเปล่า ฉะนั้นถ้าเราไม่อยากทุกข์ใจ ก็อย่ามัวเรียกร้องคนโน้นคนนี้ให้พูดดีๆ กับเรา อย่าทำสิ่งที่ไม่ดีกับเรา อันนั้นมันเป็นไปได้ยาก เราควบคุมบังคับบัญชาคนอื่นไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือดูแลใจเราให้ดี อย่าเปิดช่องให้ความทุกข์หรือสิ่งเลวร้ายเข้ามาเล่นงานจิตใจเราได้

วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560

กำลังใจ คือ พลังชีวิต

กำลังใจเป็นพลัง เพิ่มสติในการสู้ชีวิต สู้กับงาน
แต่บางครั้งมันท้อ...กำลังใจหาย สติก็ไปด้วย
มาดูกันก่อนว่าเหตุที่ทำให้กำลังใจหมดไปนั้นมันมาจากอะไรบ้าง...
แบ่งใหญ่ๆได้ 3 เรื่อง
ร่างกาย : อันนี้เรื่องสุขภาพโดยตรง คือ อาจมีโรคประจำตัว โรคเรื้อรัง ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง พลอยหมดแรง ท้อ ไม่มีกำลังใจ
จิตใจ : อาจเกิดแบบไม่รู้ตัวนะ หรือ อาจรู้ว่าตัวเองมีปัญหาอะไรแต่ไม่สามารถขจัดปัดเป่ามันออกไปได้ จึงไม่สบายใจ ทำอะไรผลงานก็ไม่ดีเท่าที่ควร หมดกำลังใจ ให้ค่อยๆพิจารณาหาสาเหตุ มันอาจอยู่ลึกๆในจิตใจมานาน (คิดว่าส่วนใหญ่พวกเราจะอยู่ในสาเหตุนี้)
สังคม : ประมาณใครๆก็ไม่รัก ไม่มีใครสนใจ ทำดีไม่ได้ดี ทำงานมานานหลายปี ไม่เห็นมีใครชื่นชม ไม่มีคนเห็นความสำคัญ อันนี้กำลังใจก็หดหายไปได้
คือ ถ้าตอนนี้หมดกำลังใจ...เราจะหากำลังใจได้จากที่ไหน
...มาเป็นเกราะคุ้มกันพลังใจ
...มาเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงได้อีก
ไม่ต้องไปหาจากที่ไหน...ปรับตัวเองนั่นแหละ...
อย่างแรกเลย คือ หาสาเหตุ มันมาจากอะไร แล้วปรับแก้มันไป อย่าไปตอกย้ำซ้ำเติม หมกมุ่นว่าตัวเองมีปัญหา ไร้ความสามารถ ที่สำคัญ คือ ยอมรับให้ได้ก่อนว่ามันเป็นปัญหาของเรา ไม่ต้องโทษใคร !!

คราวนี้มาปรับแก้..โดย...
ว่องไว : ให้ไว ทำอะไรอย่าช้า มันยิ่งหนืด ทำใจให้สดชื่นอะไรๆมันจะดูดีขึ้น ความกระฉับกระเฉง ความตั้งใจจะช่วยให้เราทำอะไรได้สนุก คิดงานล่วงหน้า เตรียมงานล่วงหน้า เรียกว่าไว !!
ทำอะไรพิเศษในแต่ละวัน : ทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองมีความสุข ให้มันเป็นการชาร์ตพลัง เพิ่มพลังชีวิตให้ตัวเอง ออกกำลังกายก็ได้ ให้ข้าวหมาก็ได้ ฟังเพลงก็ได้ ช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ นั่งสมาธิ ฯลฯ กิจกรรมเล็กๆน้อยๆที่ทำได้น่ะ ทำความสะอาดที่ทำงาน โต๊ะทำงาน ก็ทำไปเพราะมันช่วยให้เรามีความสุข มันเป็นการฝึกตั้งเป้าหมายเล็กๆทุกวันที่จะทำให้เรามีกำลังใจ
เชื่อมั่น “ทำดี ได้ดี” : แค่อย่าท้อใจ ให้เชื่อมั่นในเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มันเป็นหลักการของคุณธรรมในการดำรงชีวิตที่ชัดเจน การทำดีนั้นแค่อยากทำ ก็สุขใจแล้ว ยิ่งได้เริ่มทำ พลังใจจะมากขึ้น เรื่องดีดีทั้งหลาย เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร ความเมตตากรุณา ฯลฯ ย่อมพาสิ่งดีๆเข้ามา การทำงานก็จะดีตามไปด้วย เพราะ “เหตุดี ผลย่อมดี”
ทำได้แค่นี้...กำลังใจมา...ไม่ต้องไปหาจากที่ไหนนะ

การตั้งคำถามเพื่อความสำเร็จของงาน



มีคนเขียนไว้ในบล็อกเรื่องแนวทางในการใช้คำถาม เพื่อพูดคุย และสอนงาน มาจากของฝรั่ง ชื่อ Natalie Ashdown เป็น coach และนักเขียน ซึ่งเขียนหนังสือเรื่อง Bring out their best-inspiring a coaching culture in your workplace เขาเรียกแนวทางนี้ว่า PCIP ลองมาดูแนวทางในการตั้งคำถามกัน
  • Proud เป็นชุดคำถามที่เน้นไปที่เรื่องของความสำเร็จ และความภาคภูมิใจในการทำงานของพนักงาน เช่น คำถามว่า
    • “ช่วงที่ผ่านมามีเรื่องอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้าง” หรือ
    • “มีความสำเร็จในการทำงานอะไรเกิดขึ้นบ้าง” หรือ
    • “ช่วงที่ผ่านมาคุณได้ใช้จุดแข็งของคุณไปในเรื่องไหนบ้าง และผลเป็นอย่างไร”
  • Challenges เป็นชุดคำถามที่เน้นไปที่เรื่องของความท้าทายในงาน ปัญหาที่เกิดขึ้น และแนวทางในการแก้ไข เช่น
    • “คิดว่ามีความท้าทายใหม่ๆ อะไรที่เกิดขึ้นบ้าง”
    • “และความท้าทายนั้นมีผลต่อการทำงานของเราอย่างไร”
    • “คุณคิดว่าจะมีวิธีที่จะจัดการกับความท้าทาย หรือปัญหาเหล่านั้นอย่างไรได้บ้าง”
  • Improvement เป็นชุดคำถามที่เน้นไปที่เรื่องของการปรับปรุงและพัฒนาการทำงาน ทั้งในเรื่องของความรู้ทักษะ และเรื่องของการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงาน ฯลฯ อาทิ
    • “ในช่วงที่ผ่านมาคุณได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ บ้าง”
    • “มีอะไรที่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และจะทำอย่างไรให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด”
    • “ถ้าเปลี่ยนแปลงสำเร็จ คุณคิดว่าจะได้เรียนรู้อะไรจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้”
  • Plan เป็นชุดคำถามที่เน้นไปที่เรื่องของการวางแผนเพื่อดำเนินการต่อไปในทางปฏิบัติ เพื่อให้พนักงานได้เห็น และเข้าใจแผนการปฏิบัติงานในขั้นตอนถัดไป อาทิ
    • “ขั้นตอนถัดไป จะต้องทำอะไรต่อบ้าง เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
    • “คุณมีแผนการดำเนินการอย่างไร กับเรื่องที่เราคุยกันมาทั้งหมด”
    • “ต้องการการสนับสนุนในเรื่องอะไรบ้าง แจ้งผมได้”
อันนี้ถือเป็น model คำถามที่ทำให้คนของเราสามารถตระหนักถึงความสำเร็จ ความภาคภูมิใจในการทำงาน และเน้นไปที่การพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นได้

แต่สำคัญที่สุด คือ คนถามต้องจริงใจ ตั้งใจจริงและมุ่งมั่นจะพัฒนาผลงานของบริษัทให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วันอังคารที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 121

เอามาคิดอีกที...

โลกของความสุขที่แตกต่าง..โลกความสุขยินดีต้อนรับทุกคน
ความสุขมีพื้นที่มากมาย 
โลกใบนี้หนึ่งคน อาจมีความสุขบนพื้นที่ได้หลายส่วน
ความสุขถูกสร้างตามมุมมอง
ตามความสามารถของแต่ละคน
ไม่มีใครสุขหรือดีกว่าใคร..ในขณะที่ "ใจ" เป็นสุข..มันเท่ากัน

บางคนอาจมีความสุขที่คนอื่นอาจเห็นว่าเป็น "ความสุขโง่ๆ"
ใครคนหนึ่งอาจมองการตัดสินใจของใครอีกคนหนึ่งว่า “โง่”
แต่อย่าลืมว่า..โลกใบนี้ไม่ได้มีคนแบบเราเท่านั้น
การตัดสินใจของคนแต่ละคนจึงแตกต่างกัน..ว่ากันไม่ได้
บางครั้งคำปรึกษาจากคนอื่น อาจจะได้คำตอบที่ตรงกับใจ บางทีขัดใจ
ซึ่งถ้าไม่รู้จักตัวเองดีพอ ไม่รู้ความต้องการของตัวเอง..มันจะยากนะ
เพราะ...ชีวิตของเราก็จะดำเนินไปตามวิถีทางของคนอื่น
.....ซึ่งไม่ใช่ความต้องการจริงๆของตัวเอง....

การเลือกมีชีวิตตามทางของตัวเอง ไม่มีใครมาบอกได้ว่า..มันใช่ !!
ไม่มีใครจะรู้หรอกว่า...
เราอยู่ตรงไหนแล้วจะมีความสุข
เราอยู่ตรงไหนแล้วจะประสบความสำเร็จ
คำตอบมันต้องมาจากตัวของเราเอง
ฟังเสียงหัวใจของตัวเองให้มากเข้าไว้
ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
กล้าที่จะเสี่ยง
กล้าที่จะเดินตามทางของตัวเอง
แล้วเราจะรู้ว่า ทางที่ดีที่สุด ทางที่เป็นความสุขของเราอยู่ตรงไหน

ที่สำคัญที่สุด...
อย่าสนองความสุข ความพึงพอใจของตัวเองบนความทุกข์ของคนอื่น
หรือแม้แต่...ความทุกข์ของตัวเอง