วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2562

คิดวันละอย่าง # 243

เรียนรู้กันไป..สวัสดีแมลงสาบ
หลายคนคงยี้มาก แต่เจ้าแมลงสาบนี่มันดำรงชีวิตมาอย่างยาวนาน ประมาณว่า 300 ล้านปีก่อนเลยนะ เป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์ที่สูญพันธุ์ยากเป็นอันดับต้นๆ ตัวใหญ่โตอย่างไดโนเสาร์ยังสูญพันธุ์ แต่แมลงสาบยังอยู่ !! คือ มันมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ส่งผลให้สามารถดำรงชีวิตอยู่นานกว่า ซึ่งน่าเรียนรู้ใช้ได้เลย 
อย่างแรก คือ การปรับตัว แมลงสาบมี ความสามารถในการปรับตัวอย่างยอดเยี่ยม สามารถปรับตัวได้กับทุกถิ่นทุกที่ กินได้แทบทุกอย่าง คือ ไม่เรื่องเยอะ คนเราถ้าจะอยู่ได้นานและอยู่ได้ดี การปรับตัวนี่แหละสำคัญ ถ้าเงื่อนไขไม่มากเกิน อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้อย่างมีความสุขนะ พอมีความสุข ไม่ทุกข์มาก สุขภาพก็ดีตามมา สบายใจด้วย 
คราวนี้มาดูอีกอย่าง คือ เรื่องขนาด มันตัวเล็ก หลบหลีกได้ว่องไว ก็ให้หวนคิดถึงคนที่ชอบพองตัว อัตตาโตๆ นี่จะอยู่ยากมาก คือ เป็นคนไม่ต้องทำใหญ่โต ทำตัวเล็กๆธรรมดาๆเข้าไว้ ไม่ต้องถามคนอื่นว่ากูเป็นใคร พ่อกูเป็นใครก็ได้ ถ้าเราทำตัวให้เล็กเราก็จะมีความว่องไวในการหลบหลีกทุกข์และอุปสรรคนานานับประการ คือ อัตตาจะน้อย ไม่เป็นจุดเด่นที่คนคอยจะมาจ้องจัดการให้ปวดหัว 
อีกอย่างคือการหาโอกาสดี แมลงสาบออกหากินเวลากลางคืน มันปลอดคน ไม่มีใครรบกวน คนเราก็ต้องมีการหาช่องทางของตัวเอง หาเวลาที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง ที่จะอยู่รอด สร้างอะไรดีดีให้ตัวเองเหมือนกันนะ ไม่ต้องไปวุ่นวายกับชั่วโมงเร่งด่วนเหมือนคนอื่น แสวงหาทางของตัวเองไป ดูจังหวะดีดีให้ตัวเองก็แล้วกัน
สุดท้าย คือ แมลงสาบไม่พึ่งใคร เพศเมียสามารถสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศได้ ผลิตไข่ที่ฟักเป็นตัวได้โดยไม่ต้องมีการปฏิสนธิ เป็นอิสระแก่ตัวมาก ไม่ต้องอาศัยพึ่งพาใครเพื่อเพิ่มผลิตภาพ 55 เป็นผู้หญิงไม่ต้องอิงพิงผู้ชายทุกเรื่องก็ได้มั๊ง อยู่สวยๆไป ทำอะไรได้ด้วยตัวเองดีที่สุดนะ

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2562

มีทุกข์ก็แก้ทุกข์

มีทุกข์ก็แก้ทุกข์ มันอาจไม่ง่าย แต่ไม่ใช่ทำไม่ได้ การปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเฉานาน มันไม่สร้างสรรค์ มีแต่ทำร้ายตัวเอง คือ คิดซ้ำไปมา ยิ่งคิด ทุกข์ยิ่งโถมเข้ามา แต่คนที่ผ่านมาได้นี่ถือว่าแจ่มจันทร์ พวกนี้เก่ง รู้ว่าต้องทำในสิ่งที่ควรทำ รู้ตัวเองและไม่ทำตัวผิดแผกจากธรรมชาติของตัวเอง อันนี้ คือ เมตตาตัวเอง มันจะมีแสงเรืองๆอุ่นๆออกมาให้คนอื่นได้ซึมซับด้วย จะประมาณมีเมตตามากจนเผื่อแผ่ให้คนอื่นได้ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่หมกมุ่นแต่เรื่องตัวเอง คิดเผื่อคนอื่นด้วยอีกต่างหาก เพราะพวกนี้ชื่นชมในชีวิตที่ดีของตัวเอง ไม่มัวรันทดในสิ่งที่ตัวเองไม่มีไม่ได้ หรือ ผิดหวัง คนเหล่านี้ใครอยู่ใกล้ก็แฮบปี้ 

มันอยู่ที่เราละ 
ว่าอยากสร้างความสุข หรือ ความทุกข์ให้ตัวเองและคนรอบข้าง


วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562

คิดวันละอย่าง # 242

สิ่งที่ “ใช่” สำหรับบางคน อาจ “ไม่ใช่” สำหรับเรา
คนไม่รู้จักเราดีพอ ไม่พอใจในสิ่งที่เราคิดหรือทำ
ทั้งที่มันเป็นเรื่องดี เรื่องถูกต้อง
มีพฤติกรรมไม่สร้างสรรค์ มีเสียดสีให้น่าเจ็บใจ
ช่างเถอะ ปล่อยไป อย่ารู้สึกแย่ มันก็แค่หมาเห่า 
คนที่ไม่รู้จักเราดีพอ ต่อให้เราอยากจะอธิบาย
...ก็ไม่พร้อมจะยอมรับฟัง...
ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดได้อีก
ไม่มีทางจะอยู่ข้างๆเวลาที่เราทุกข์ พลาด เสียใจ
พูดง่ายๆ คือ ไม่แคร์
ดังนั้นถ้าเอาชีวิตไปแคร์กับพวกไม่แคร์
มันเครียดโดยเปล่าประโยชน์ บางทีปวดใจ
น้ำหนักความคิดของคนที่ไม่รู้จักเรา คือ ตัวถ่วง
ตัวถ่วงความอิสระ ตัวยับยั้งการใช้ชีวิตของเรา
ชีวิตคนไม่ได้ยาวขนาดนั้น และมีแค่หนึ่งชีวิต
ใช้ชีวิตของตัวเองไป อย่าได้แคร์
มันชีวิตเรา ไม่ใช่ชีวิตคนอื่น อย่ามายุ่งกันเลย


วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2562

คิดวันละอย่าง # 241

พวกไม่มีความสุขในชีวิต
เวลาคนไม่มีความสุข อาการจะน่ารำคาญและน่าเป็นห่วง คือ อะไรก็โกรธ ไม่พอใจ เรียกร้องความสนใจแปลกๆ อยากมีบทบาททุกเวที กดดันทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ ไม่ฟังความเห็นของคนอื่น คนเหล่านี้ไม่เห็นความสวยงามในคนอื่นเพราะไม่เคยเห็นความสวยงามของตัวเองเช่นกัน มันเป็นเพราะ
➡️ ชีวิตรันทด : ติดนิสัยระบายความรันทดต่างๆนานา คือเติบโตมาแบบไม่เต็ม ถูกกระทำถูกกดดัน ถูกบังคับมาตั้งแต่เด็ก เลยต้องระบายความคับข้องออกไปให้คนอื่น ต้องหาทางทำมึนบ้าง พาลบ้าง กลั่นแกล้งคนอื่น หรือ พูดจาแย่ๆเสียดสีคนอื่น
➡️ ชีวิตโดดเดี่ยว : รู้สึกว่าตัวเองอยู่ชายขอบ ไม่ได้รับความสนใจ รู้สึกว่าไม่มีใครรัก จึงต้องการความสนใจ เลยเลือกใช้ความแรงที่ไม่เข้าท่ามากกว่าปัญญา เพื่อให้รู้สึกมีบทบาท มีอำนาจบ้าง
➡️ ชีวิตต่ำตม : ไม่มีความพึงพอใจในชีวิตตัวเอง ไม่ดีพอ ไม่หล่อไม่สวยพอ ไม่ฉลาดพอ จึงต้องมองหาวิธีให้ตัวเองรู้สึกดีกว่าคนอื่น กดคนอื่น พูดง่ายๆคือ อิจฉาคนอื่นตลอดเวลา ความพอใจในตัวเองต่ำมาก
➡️ ชีวิตมีแต่อีโก้ : อันนี้ตรงกันข้ามกับพวกต่ำตม คือ ผยองในตนเองว่าสิ่งที่ทำ หรือสิ่งที่คิดนั้นดีที่สุด ไม่ฟังใคร เอาตัวเองเป็นใหญ่ อีโก้ขึ้นสูงจนลงไม่เป็น เมื่อเจอกับอะไรที่ท้าทายว่าตัวเองไม่ได้ถูกไปทุกอย่าง อาจมีเป็นบ้าได้
รู้แบบนี้...แผ่เมตตาไป
เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ พวกนี้ต้องต่อสู้กับตัวเอง !!

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562

คิดวันละอย่าง # 240

เป็นแขกควรมีมารยาท
เราเป็นแขกของโลก อย่าคิดเยอะ
บ้านเขาจะหยิบฉวยอะไรมาเป็นของตัวไม่ได้
ถือว่าเป็นขโมยนะ
เอาแค่ “ยินดี ชื่นชม” บ้านเขาไป
อย่าไปเล็งว่าต้องได้ ต้องเอาอะไรแบบไหน
มันไม่มีอะไรเป็นของเรา เอาออกไปไม่ได้
และ ไม่ต้องอยากเป็นเหมือนแขกคนอื่นด้วย
พอใจในปัจจุบันของตัวเองที่เป็นอยู่
ทำกรรมดี มีบุญประกอบไป
สักวันก็ต้องลาเจ้าของบ้าน
อยู่นานไปไม่ดี เดี๋ยวเสียมารยาท

ไม่เก่ง ไม่ได้แปลว่าโง่

Howard Gardner กับ Multiple Intelligences Theory ทฤษฎีพหุปัญญา นั้นบ่งชี้ว่า ความหลากหลายของปัญญาคน ไม่ควรถูกตัดสินผ่านบททดสอบแบบเดียวกัน เพราะมันไม่ตอบโจทย์ทุกปัญญา ทุกปัญหาในชีวิต  ความเห็นด้านเดียวของคน ไม่สามารถใช้ตัดสินหรือวัดอะไรได้ทุกอย่าง สังคมเรานี่แปลกที่ชอบผูกเรื่องฉลาดหรือโง่ไว้กับเรื่องของสมองและการเรียน  หมวดหมู่ของความฉลาดในคนนั้นมีหลายประเภท เช่น ฉลาดที่เข้าใจคนอื่น ฉลาดที่เข้าใจธรรมชาติต้นไม้ใบหญ้า ก็ฉลาดได้ ภูมิปัญญาชาวบ้านไทยมีให้เห็นเยอะไป 

อย่าไปสนว่าเราโง่ หรือ ฉลาด แต่ต้องทำความเข้าใจสิ่งที่อยู่ในหัวของเราว่ามัน คือ อะไร เราถนัดอะไร ภูมิใจและชื่นชอบกับมันด้วยใจหฤหรรษ์  แต่ถ้าเอาเวลา พลังไปเปรียบเทียบ หรือ ดิ้นรนให้เหมือนของคนอื่น อันนี้โง่จริงแล้ว 

บริหารเวลาหน่อยไหม

กำหนดเรื่องด่วนก่อนเลย
ตั้งเป้าหมาย วางแผนและกำหนดเวลาไว้ 
กำหนด deadline ที่เหมาะสมเป็นจริงได้
เผื่อใจ(เวลา)ไว้สำหรับเรื่องไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้
ทำอะไรได้ ทำทันที
ทำทีละอย่าง
ทบทวน routine ใหม่
กำจัด หรือ ลดสิ่งรบกวนไป
อะไรที่คนอื่นทำได้ กระจายงานไป
เผื่อเวลาสำหรับความสุข สนุกไว้บ้าง


คิดวันละอย่าง # 239

เข้าใจผิดว่า “คิดบวก”
มีหลายคนนะที่เสพติด หลง “คิดบวก” จนเลอะเทอะ
ประมาณไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะซึนบวกไปตลอด
เจอคนร้ายๆเลวๆ ก็ไม่คิด ปากไวชมไปว่าน่ารัก ไม่เป็นไร 
เจอสถานะการณ์แย่ ก็ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม หยวนๆไป อะไรก็ได้
แบบนั้นไม่บวกนะ เรียกว่าพวกท้อแท้ ยอมแพ้ง่ายไป 

การคิดบวก คือ การพยายามปรับมุมมอง
ปรับกรอบคิด ปรับทัศนคติ เปิดกว้าง
ไม่ใช่การหลอกตัวเองว่า "ไม่มีปัญหา" 
แต่เป็นการมองปัญหานั้นในมุมใหม่ 
คือ มองว่าปัญหา คือ ปัญหา 
แต่มองว่าปัญหามันแก้ได้ จะแรงแค่ไหนก็แก้ได้ 
อาจเป็นโอกาสในการเรียนรู้ ได้ประสบการณ์ใหม่
ไม่ใช่ การไม่มีปัญหากับใคร

มันต้องมองให้เป็นจริง แต่มองในมุมที่ไม่เคยคิด
และช่วยให้เราสบายใจขึ้น ไม่ใช่ มองอะไรก็ดีไปหมด 
แบบนั้นไม่บวกแรงพอที่จะสู้กับปัญหา
มันจะกลายเป็นกลบเกลื่อนเรื่องลบด้วยความ(อยาก)บวก
เผลอๆยิ่งเครียดหนักกว่าเดิม และเป็นเครียดแฝงด้วย

ถามตัวเองดีดี “มันไม่เป็นไรจริงหรือ”
คิดบวกจริง ต้องเปิดใจ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 
และไม่ท้อแท้ไม่ยอมแพ้ง่าย