วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 99

เรื่องของคนขาด
คนขาดมารยาท ถ้าติดเป็นนิสัยมานาน 
มักจะเรียกว่าสันดาน ก็คงต้องให้มันพาลของมันไป
คนขาดคุณภาพ ถ้าทำอะไรก็หยาบ 
มักจะเรียกว่าฉาบฉวย ก็คงต้องให้มันซวยไป
คนขาดน้ำใจ ถ้าถึงที่สุด
มักจะเรียกว่างก ก็คงต้องปล่อยให้ตกไป
คนขาดปัญญา ถ้าจะบ้าตีความข้างเดียว 
มักจะเรียกว่าดื้อ ก็คงต้องให้มันบื้อต่อไป
คนขาดใจ ถ้าจะไร้ซึ่งสำนึกข้างใน
มักจะเรียกว่าทราม ก็คงต้องข้ามมันไป
คนขาดหลักการ ถ้าเปลี่ยนไปไม่แคร์
มักจะเรียกว่าแถ ก็คงต้องปล่อยมันแย่ไป
คนขาดรัก ถ้าเอาแต่ท้อแท้
มักจะเรียกว่าอ่อนแอ ก็คงต้องปล่อยมันแพ้ไป

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เรื่องของความผิดพลาด

คนเรามักกลัวผิดกลัวพลาดจึงมักสร้างทิฐิ สร้างทัศนคติต่อต้านความผิดพลาดไว้ล่วงหน้า พอพลาดขึ้นมาก็จะป้องกันตัวเองไว้ก่อน เช่น โกหกไว้ก่อน ปัดไว้ก่อน หรือหาแพะซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาทับซ้อนยากที่จะแก้ไขในภายหลัง อย่ามัวกลัวต้องรับผิดชอบ กลัวต้องชดใช้ กลัวเสียหน้า เพราะถ้าเป็นเรื่องงาน...มันเสียหายมากกว่านั้น เมื่อพลาดไปก็ต้องกล้าๆหน่อย

1. ยอมรับความจริงอย่างกล้าหาญ การหลบเลี่ยงความผิดพลาดถือเป็นวิถีคนขลาด อะไรที่เกิดไปแล้วย่อมกลายเป็นอดีตไปแล้ว ลบไม่ได้ หนีไม่พ้น ผิดก็คือผิด จะไปคิดระบายเปลี่ยนสีเปลี่ยนรูปร่างเป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้ แล้วจะไปคิดให้เสียเวลาทำไม 

2. ยอมละทิฐิไป อย่ามัวห่วงภาพลักษณ์ ห่วงหน้าตาตัวเอง คนเราไม่ได้ดีเสมอ ทำอะไรก็ถูกเสมอ ทำผิดไม่เป็น มันไม่ใช่ มองให้ออกว่า อะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตระหว่างหน้าตาหรือสัจจะความจริงที่เป็นสิ่งไม่ตาย

3. ตั้งจุดยืนใหม่ แก้ไขตัวเอง ประกาศการยุติความวุ่นวายผิดพลาดของตัวเอง อันนี้เป็นโอกาสที่เราสามารถลุกขึ้นมาจัดระเบียบปฏิรูปตนเองใหม่ได้

Bruce Lee ว่าไว้ “ความผิดพลาดเป็นเรื่องอภัยกันได้ ถ้าคนนั้นยอมรับด้วยความกล้าหาญก่อนในทันที” ขออย่างเดียวอย่าผิดซ้ำซากเหมือนที่เป็นมา มันคือการไม่เรียนรู้ การไม่พัฒนาตัวเอง !!

ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาง่ายๆว่า...
ถ้ากลัดกระดุมผิด……จะทำยังไง……
คำตอบเดียว คือ กลับไปแก้ไขที่จุดเดิม 
ถ้าอาหารหมดอายุ..จะทำยังไง…..
คำตอบเดียว คือ ทิ้งเก่าเริ่มใหม่

มันเป็นเรื่อง “จุดเดิมหรือจุดใหม่” ขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ว่าจำเป็นต้องแก้ไข เพื่อให้มีสิ่งดี สิ่งที่ถูกต้องตามมา คนโง่เท่านั้นที่จะตะบี้ตะบันใส่เสื้อที่ติดกระดุมผิดไปทั้งวัน หรือกระเดือกอาหารหมดอายุเข้าไปในร่างกายตัวเอง แล้วปล่อยให้มันเป็นพิษคุกคามสุขภาพ


การทำงานก็เช่นกัน...เลือกได้ คือ กลับไปแก้ไขที่จุดเริ่ม ที่มันผิด หรือ ทิ้งสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพองค์กรไป...แล้วเริ่มใหม่ ซึ่งได้ประโยชน์หลายประการ อย่างน้อย ความรู้สึกผิดของตัวเองจะลดลง ไม่ค้างคาใจ ได้ยุติการสูญเสียเวลาอย่างไร้ประโยชน์และที่สำคัญได้โอกาสที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อตนเอง กล้าออกมารับผิดชอบอย่างสง่างาม ไม่ต้องแก้ตัวให้เสียเวลา มันจะได้เริ่มต้นลงมือแก้ไขด้วยตัวเอง อันนี้คือพฤติกรรมวีรชนคนจริง !!


วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การให้คนยอมรับ Feedback


การให้คนยอมรับ Feedback ด้วยความเต็มใจ หรือ อย่างน้อยก็ไม่ได้รู้สึกแย่ขนาดนั้นมีข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้

• คนที่ให้ feedback ต้องเชื่อถือได้ ทั้งเรื่องผลงานและความรู้ทักษะในการทำงาน ต้องเก่งจริงและได้รับการยอมรับจากคนในองค์กร

• ให้ Feedback ด้วยเจตนาและตั้งใจดี คือ ให้เพื่อที่ทำให้คนเก่งขึ้น สามารถที่จะปรับปรุงการทำงานและผลงานให้ดีขึ้น ไม่ใช่ให้เพื่อที่จะกล่าวหา ตำหนิ หรือ ทำให้คนรู้สึกแย่ แต่ตัวเองสาแก่ใจ

• ให้ Feedback โดยใช้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่ไปปรุงแต่ง ดัดแปลงข้อเท็จจริงในมุมมองของตัวเอง เพราะคนจะไม่เปิดใจรับ ไม่มีใครโง่ขนาดนั้น

• แสดงออกถึงความจริงใจ น้ำเสียงไม่กระโชกโฮกฮาก หรือประชดประชันอยู่ตลอดเวลา น้ำเสียงและภาษากายต้องเปิดเผยจริงใจ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ชอบในสิ่งที่มี


ชอบในสิ่งที่มี
ยินดีในสิ่งที่ได้

พฤติกรรมกลยุทธ์ (strategic behavior) สำหรับคนที่ใจไม่ถึง


พฤติกรรมกลยุทธ์ (strategic behavior) สำหรับคนที่ใจไม่ถึงในการทำงานมี 2 แบบ

หนึ่ง คือ กลัวเสียพักตร์ กลัวพลาด จะเลือกทำในสิ่งที่จริงๆ แล้วก็รู้ดีอยู่ว่า "มันไม่ได้ดีที่สุด" พูดง่ายๆ ก็คือ หวังต่ำไป ไม่ถึงเป้าหมาย น่าเสียดาย

สอง คือ คิดว่าสูงเกินเอื้อม ไม่ได้ทำในสิ่งที่เหมาะสมกับคุณสมบัติตัวเอง ทั้งๆที่ทำได้ เนื่องจาก “ปอดแหก” ไปเสียก่อน

เสียทั้งสองแบบ...แต่ที่เสียมากที่สุด คือ องค์กร !!

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ความรักดีดี


ความรักดีดี.....

เมื่อ...คนไม่ได้คิดว่ารัก คือ ทุกสิ่งทุกอย่าง รักคือดอกไม้งาม คือของหวาน ไม่ใช่ข้าวปลาอาหารที่ต้องกินมันทุกวัน...ไม่ใช่อากาศที่ขาดไม่ได้

เมื่อ...คนมีความสุขได้ด้วยตัวเอง คนอื่นเป็นแค่โบนัส ไม่ใช่เงินเดือน ไม่ต้องพึ่งพิงขนาดนั้น จะชวนรำคาญ

เมื่อ...คนอยากเห็นคนอื่นมีความสุข ไม่คิดถึงแต่ความสุขของตัว คนอื่นเป็นสุข เราควรดีใจ ไม่ใช่อิจฉา ต้องปรารถนาให้คนอื่นเป็นสุข

เมื่อ...คนไม่คาดหวังเยอะ คาดหวังมาก โอกาสผิดหวังมีมาก คาดเอาแต่พองาม รักแต่พอดี

เมื่อ...คนรับความแตกต่างได้ จะรักดี รักงาม รักง่ายขึ้น คิดไม่ตรงกัน ไม่ได้อย่างใจ ไม่เห็นเป็นไร ปรับตัวไป

เมื่อ...คนเข้าใจว่าความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา มันต้องมีเปลี่ยน ไม่มีอะไรเหมือนเดิมตลอด ทำใจไป เป็นเพื่อนกันไปสบายใจ

เมื่อ...คนไม่เห็นแก่ตัว เอาแต่เรื่องที่ตัวเองชอบ ความต้องการของคนอื่นก็สำคัญ เอาใจเขามาใส่ใจเรา เห็นใจกันมากขึ้น 

เมื่อ...คนรู้จักเกรงใจกัน สนิทมากอย่าคิดว่าทำอะไรก็ได้ อย่าลืมนึกถึงใจคนอื่นบ้าง จะน่ารัก

เมื่อ...คนแสดงออกซึ่งความรัก คนอื่นไม่ใช่หมอดูจะได้เดารู้ไปทุกเรื่อง ชอบก็บอก รักก็บอก เอาให้ชัด ไม่ต้องฟอร์มจัด มันเหนื่อย

แค่นี้...ความรักก็ดีที่สุดในโลกแล้ว 

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การสนับสนุนกันในการทำงาน

การสนับสนุนกันในการทำงาน

1. คนจะสนับสนุนกันได้ต้องสามารถเข้าใจและมองเห็นเป้าหมายเดียวกัน หากคนสนับสนุนไม่สามารถมองภาพเดียวกัน มันไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน ไม่รู้ว่าใครต้องการอะไร ไม่รู้ว่าจะสนับสนุนยังไง แบบนี้สนับสนุนกันไม่สำเร็จ
2. การสนับสนุนกันไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องไปทั้งหมด การถกเถียงและแสดงความคิดเห็นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็น เราต้องการมุมมองที่แตกต่าง หากไม่โต้แย้งทั้งๆที่เห็นปัญหาหรือข้อผิดพลาด มันจะพัฒนาไปด้วยกันไม่ได้ องค์กรจะเติบโตได้ช้ามาก
3. คนที่สนับสนุนต้องสามารถพูดแทนกันได้ ต้องสื่อสารเป้าหมายหลักของสิ่งที่ทำให้คนอื่นได้รับรู้ เพื่อสร้างประสบการณ์และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ทำอยู่

การสนับสนุนกันเป็นเรื่องจำเป็นมาก งานทั้งหลายไม่ได้เป็นเรื่องของคนเพียงคนเดียว มันหมายถึง "ทีม" และเราเองนอกจากจะต้องหาคนสนับสนุนในการทำงานแล้ว ตัวเองยังต้องสามารถเป็นผู้สนับสนุนที่ดีด้วย !!

คิดวันละอย่าง # 98

เราเป็นของดีที่คู่ควร
don't sell yourself short !!

เคยไหม...เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่ “ไม่โอ” 
เคยไหม...ต้องทนฟังเรื่องที่ “อึดอัด”
เคยไหม...ขึ้นเวทีไปแล้วมัน “ไม่ใช่”

มันรู้สึกเหงา ด้อย เบื่อและโมโหตัวเอง
มันเป็นเพราะบางทีคนเราก็หลงเชื่อในสิ่งที่เห็น 
สิ่งที่ดูเหมือนคล้ายๆ กัน เป็นพวกกัน....บางทีภายนอกมันไม่เหมือนกับภายใน
หรือบางทีมันเป็นเพราะอดีต มันทำให้การคาดคะเนผิดเพี้ยน
…ที่ใช่...กลายเป็นไม่ใช่...

มันมี “คนบางคน” เท่านั้นที่คุ้มค่าพอที่จะเสียสละอะไรแบบนี้ให้ได้
….แต่ไม่ใช่ทุกคน....

รู้สึก “ไม่โอ” “อึดอัด” “ไม่ใช่” เมื่อไหร่...ถอยออกมา
ฝืนเข้าไปอยู่ในวงนั้น...เราจะลำบากใจ ทุกข์ใจไปเรื่อยๆ 
ไม่เอา...ไม่ได้...เรามีคุณค่ามากกว่านั้น
คุณค่าในตัวเอง ไม่ต้องการการพิสูจน์ก็จริง แต่มันต้องรู้ตัวเอง

การเดินทางของชีวิต...เราไปได้ไกลกว่านั้น ไปได้ดีกว่านั้น
อาจไม่ต้องไกลมาก ดีมาก..แต่ทุกก้าวที่เดินทางมันต้องคุ้มค่า 
ไปในที่ที่เหมาะกับตัวเอง เราจะแข็งแกร่งขึ้น
อย่าไปอยู่ในที่ที่ทำให้ตัวเองต้องก้มหน้ารับกรรม 
ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรเรา...หรือถึงจะเป็นชาติไหนมา
ชาตินี้ก็เลี่ยงไป...ไม่ก่อกรรมเพิ่ม..  

พลาดไปแล้ว...ก็แค่ยิ้มขำตัวเองไป... มิ้กกี้บอกว่า...
“To laugh at yourself is to love yourself.”

รักตัวเองเยอะๆ มีสติเยอะๆ สตังค์ไม่มี...ไม่เป็นไร ^_^


วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ทักษะและความสามารถของผู้ประกอบการ


Richard Branson เขียนว่า ไม่มีใครเหมือนใครก็จริง ผู้ประกอบการต่างก็มีแนวทาง แนวคิดต่างกัน แต่ผู้ประกอบการมีทักษะและความสามารถเหมือนกันอยู่ 5 อย่าง คือ

เสื่ยงบนพื้นฐานของการคำนวณ Takes calculated risks
คนที่โชคดี คือ คนที่เตรียมพร้อมที่จะเสี่ยง คนที่คนอื่นเห็นว่ามีโชคคือคนที่สร้างโชคขึ้นเองทั้งนั้น คนที่เปิดประตูของโอกาสด้วยตัวเอง คนที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง

เรียนรู้จากความล้มเหลว Learns from failure
คนที่ประสบความสำเร็จล้วนเรียนรู้จากความล้มเหลวของตัวเอง ไม่มีใครสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือทำ มันอยู่ที่เรียนรู้ได้เร็วแค่ไหน ฟื้นได้เร็วแค่ไหนและก้าวต่อไปแบบไม่กลัวความล้มเหลว

มองภาพใหญ่ เห็นภาพรวม Sees the bigger picture
Richard Branson  กล่าวว่าตอนเริ่มธุรกิจ ก็ไม่ได้นึกว่าต้องเห็นภาพสุดท้ายที่เป็นรูปธรรม แต่เขาเห็นว่าจะให้บริการอย่างไร เห็นส่วนขยายการให้บริการที่สมบรูณ์ คนประสบความสำเร็จได้ต้องนำเอาแนวคิดที่เห็นนั้นมาลงมือทำให้ครบ

กระจายงานอย่างฉลาด Delegates wisely
การทำทุกอย่างคนเดียวแล้วสำเร็จ มันมีแต่ในนิทาน เมื่อเห็นภาพใหญ่ขนาดนั้น มันไม่สามารถทำคนเดียวได้ มันต้องกระจายงานไปให้คนอื่นช่วย เราไม่ได้เก่งไปทุกเรื่อง

สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ Communicates effectively

การสื่อสารทำให้โลกทุกวันนี้หมุนไปได้ มันอำนวยความสะดวกให้มนุษย์เชื่อมต่อกันติด ช่วยให้เรียนรู้ เติบโตและก้าวหน้า และการสื่อสารไม่ใช่แค่เรื่องการพูด การอ่านเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจสิ่งที่ได้ยิน และบางครั้งเลยไปถึงสิ่งที่คนอื่นไม่ได้พูดออกมาตรงๆ Richard Branson เชื่อว่าการสื่อสารนี่เป็นคุณสมบัติที่สำคัญมากสำหรับคนที่จะประสบความสำเร็จ