วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2561

ชีวิต...มีได้ มีเสีย

ชีวิต...มีได้ มีเสีย😎
ไม่ได้อยู่ที่ใคร หรือ อะไร...อยู่ที่ตัวเองทำอะไร กับใคร 

แบบนี้เรียกว่าเสีย...

อิจฉาคนอื่น เสียหน้า
ขวางคนอื่น เสียเวลา
โกหกคนอื่น เสียคน
โทษคนอื่น เสียท่า
โกรธคนอื่น เสียสติ
หลงรักคนอื่น เสียใจ

แบบนี้เรียกว่าได้...
เมตตาคนอื่น ได้สุข
ยอมรับคนอื่น ได้สบาย
ยุติธรรมกับคนอื่น ได้ใจ
เคารพคนอื่น ได้ศักดิ์ศรี
ช่วยเหลือคนอื่น ได้ดี
ยินดีกับคนอื่น ได้เบิกบาน


วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2561

RIP Stephen Hawking จักรวาลนี้ ไม่มีคำว่า “สมบูรณ์แบบ”

จักรวาลนี้ ไม่มีคำว่า “สมบูรณ์แบบ” 
The universe doesn't allow perfection !!
Stephen Hawking, A Brief History of Time

ในชีวิตคนเรา ไม่มีใครรู้ว่าจะเจออะไรร้ายๆที่ไม่คาดคิดเมื่อไหร่ 
โลกไม่เคยมีความสมบรูณ์แบบไม่ว่าสำหรับใคร
จะรวย เก่ง เฮงแค่ไหนก็หาที่มันเพอเฟคไม่เจอ
เมื่อมีความยากลำบากเกิดขึ้น แค่อย่าท้อแท้
Stephen Hawking กะพริบตาได้อย่างเดียว
ยังค้นพบสิ่งยิ่งใหญ่แห่งจักรวาลและมีชีวิตอยู่นานได้

มันใช่เวลาที่เราจะมานั่งคร่ำครวญไหม.....เราไม่ได้แย่ขนาดนั้น

ปัญหา...มันขึ้นกับมุมมอง
มองทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องให้ค่าบวกหรือลบ
เอาแค่รู้ว่า..เมื่อมีเหตุมันก็เกิด เมื่อเหตุดับมันก็ดับ มันไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เราเกิดมาเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ มีชีวิตอยู่เพื่อเป็นประโยชน์ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช้อคติความเป็นชาติ ศาสนา เพศ สีผิว หรืออื่นๆ เพื่อแบ่งแยกคน ดูแคลนคนก็ดีมากแล้ว และจะดีไปกว่านั้น คือ เข้าใจความหมายของ “เวลา” ว่า...ไม่มีอดีต ไม่เห็นอนาคต อยู่แค่ปัจจุบัน 

ใช้ช่วงเวลาที่เหลือของเรา ตั้งใจทำให้มันเต็มที่ ให้คุ้มกับชีวิตที่มี
เพราะไม่รู้ว่า...จะมีชีวิต ไปได้อีกนานเท่าไหร่
RIP Stephen Hawking

พนักงานไม่ได้อายุ 10 ขวบ

พนักงานไม่ได้อายุ 10 ขวบ
จะทำอะไรให้เป็นการหย่อนใจ...ก็ต้องขออนุญาต ????
ผู้บริหารต้องยอมรับความจริงก่อนว่าเราไม่มีทางได้เวลางานเต็มแปดชั่วโมงจากพนักงาน พนักงานอาจอยู่แปดชั่วโมงจริง แต่ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานตลอดแปดชั่วโมงแน่ การทำงานแปดชั่วโมงเต็มมัน คือ ความฝันลมๆแล้งๆ คนที่ทำงานกับเราต้องการเวลาพักผ่อนหย่อนใจชั่วครู่ชั่วยามกันทุกคน มันช่วยให้หายเบื่อจากความซ้ำซากจำเจ การดูยูทูบ หรือเล่นเฟซบุคนิดหน่อย ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงขนาดนั้น ยิ่งห้ามยิ่งต้องเสียเวลากับการที่ต้องเฝ้าระวัง คอยควบคุม เพราะไม่ไว้ใจ มันมีค่าใช้จ่าย อย่างน้อยก็เป็นการติดตั้งระบบควบคุมการใช้งานอินเตอร์เนต นี่มันสมัยไหนแล้ว คนมันอยากรู้อยากเห็น อยากทันการณ์ มันต้องมีคนคอยจับตาระวัง แทนที่จะเอาเวลาไปทำอะไรให้มันสร้างสรรค์ บริษัทต้องร่างกฎระเบียบอะไรมากมายที่พนักงานไม่คิดจะอ่าน
ผู้บริหารคงต้องพิจารณาระหว่างเวลา ค่าใช้จ่ายและกำลังคนที่เสียไปกับการไม่ไว้วางใจพนักงาน 
มีผู้บริหารหลายคนที่พนักงานต้องขออนุญาตก่อนจะลงมือทำอะไรสักอย่าง ต้องได้รับการยินยอมก่อนทุกครั้ง แม้แต่เวลาจะใช้เงินเล็กน้อย ดีว่าไม่ต้องขออนุญาตเข้าห้องน้ำด้วย แบบนี้มันเด็กๆไปไหม คนทำงานโตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ ทำเหมือนพนักงานเป็นเด็ก สิ่งที่ได้ คือ ผลงานเด็กๆ 
เมื่อทุกอย่างต้องขออนุญาต มันเท่ากับการสร้างสภาพแวดล้อมที่คนไม่ต้องใช้ความคิด เป็นเรื่องของชนชั้นปกครองเบื้องบนกับลูกน้องเบื้องล่าง ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการ “ส่งสารไม่ไว้ใจ” ออกไปให้ทราบโดยทั่วกัน !!

การเข้าใจความสุขมากขึ้น

การเข้าใจความสุขมากขึ้น
ความสุขไม่ใช่เรื่องของคนแค่คนเดียว : การเอื้อคนอื่น การเมตตาคนอื่นจะทำให้ใจกว้าง และใจกว้างจะสุขง่ายกว่ามองแค่ตัวเอง มันจะทำให้เราเห็นโลกมากกว่าแค่ตัวเอง เข้าถึงคนรอบข้างได้ดีขึ้น มีความเข้าใจมากขึ้น เราเมตตาเอื้ออาทรคนอื่น คนอื่นมีความสุข เราก็จะมีความสุขไปด้วย คนใจดีกับคนอื่นจะมีความสุขมากกว่าคนใจดีกับแค่ตัวเอง
ความสุขเรื่องเดียวอาจตอบโจทย์ทุกคนไม่ได้ : ความสุขเรื่องหนึ่งตอบโจทย์ทุกอย่างไม่ได้ ความสุขไม่มี One-Size-Fits-All ประมาณเรื่องนี้คนอื่นทำแล้วสุข ถ้าเราทำคงสุขเหมือนกัน มันไม่เหมือนกัน คนแต่ละคนมีปัจจัยพื้นฐาน มีบริบทที่แตกต่างกันไป สิ่งที่เรามีความสุขไม่ได้ทำให้คนอื่นมีความสุขด้วย 
ความสุขไม่ใช่การวิ่งไล่ไขว่คว้า : อย่าหวังแต่วิ่งไล่ตามสิ่งต่างๆ เช่น การทำให้คนรักคนชอบ ความสำเร็จ ชื่อเสียง หรือเงิน มันอาจไม่ใช่ความสุขแท้จริงของเราก็ได้ มีคนหลายคนที่ได้ตามที่วิ่งไล่ แต่ก็ยังไม่มีความสุข คนดังก็ใช่ว่าจะสุข คนมีเงินก็เช่นกันไม่ได้สุขจริง การชื่นชมและยินดีกับสิ่งที่มีอยู่แล้วต่างหาก คือ ความสุข 
ความสุขฝากไว้ในมือใครไม่ได้ : เราทุกคนมีกุญแจไขความสุขของเราเอง แต่ส่วนใหญ่ชอบเอาไปฝากไว้ในมือคนอื่น เช่นภรรยาเอากุญแจความสุขไปไว้กับสามี แม่เอากุญแจความสุขไปไว้กับลูก ลูกน้องเอากุญแจความสุขไปไส่ในมือเจ้านาย และโทษคนอื่นว่าทำให้เราไม่มีความสุข ความสุขนั้นไปฝากไว้ที่คนอื่นไม่ได้ ต้องรับผิดชอบไขกุญแจความสุขด้วยตัวเอง

จัดการให้คุ้ม..ชีวิตเดียว

ชีวิตคนเราจะคุ้มค่า ใช้อย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผลได้นั้นมันต้องบริหารจัดการอยู่ 3 เรื่องนะ
➡️เวลา : เวลาเป็นทรัพยากรที่จำกัดของชีวิต ถ้าเราสามารถที่จะบริหารจัดการเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดได้ดี ชีวิตนี้คุ้มแน่ แปลว่าเราจะมีผลลัพธ์ ความสมหวังในสิ่งที่เราต้องการได้มากขึ้น ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น คือ โลกนี้มันมีสิ่งยั่วยุ ยั่วยวน ยั่วใจอื่นๆเยอะมาก จนทำให้เอาเวลาที่มีจำกัดไปทำอย่างอื่น ที่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการจริงๆ ไม่ใช่เป้าหมายที่เราวางไว้ หรือไม่ก็ประมาณ “เอาไว้ก่อน” ค่อยทำก็ได้ ผัดวันประกันพรุ่งไป เพราะคิดว่าเวลายังมีมากมาย สุดท้ายใกล้เส้นตายค่อยมาขยับ หรือตายไปก่อนได้ทำ 
➡️วินัยตัวเอง : เป็นเรื่องของการจดจ่อกับสิ่งที่ทำ ไม่ยอมละเลิก ไม่ยอมแพ้ คนเรานั้นมีสิ่งที่จะต้องทำให้ได้ตามที่ตั้งใจอยู่ วินัยจะช่วยไม่ให้ถูกสิ่งยั่วยวนทั้งหลายดึงเอาความตั้งใจของออกไป ยิ่งปัจจุบันมี line facebook internet TV และอื่นๆอีกมาก พวกนี้แหละมักเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เราหลุดออกจากสิ่งที่เราตั้งใจจะทำ พลังใจต้องแน่วแน่พอที่จะจัดการว่าสิ่งไหน อะไรควรทำตอนไหนให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยตามสิ่งยั่วใจไปทีหลัง...ก็ยังทัน 
➡️พลัง : พลังกาย พลังใจของเรานั่นหละ คนต้องมีพลังกาย พลังใจที่เพียงพอที่จะสร้างความจดจ่อ สร้างวินัยเพื่อทำให้สามารถบริหารเวลาได้ตามที่ต้องการ จะได้ไม่เหนื่อยล้าเกิดไป ไม่เครียดเกิน ไม่ซึมเศร้าหนักไป เนื่องจากทำบางอย่างที่ไม่จำเป็นนานเกินไป พลังในตัวเหมือนแบตเตอรี่ ต้องชาร์ตจนสามารถบริหารร่างกาย และจิตใจให้มีความพร้อมอยู่เสมอ รู้จักจังหวะชีวิต รู้จักที่จะพัก รู้จักเริ่มใหม่
คนเรามีเวลาเท่ากันทุกวัน
คนเรามีเป้าหมายทุกคนไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ครอบครัว ส่วนตัว ฯลฯ
แต่ความมีวินัยในตัวเองนั้น อีกเรื่องนึง มากน้อยต่างกัน
จึงต้องอาศัยพลัง...พลังกาย พลังใจที่พร้อม 7-24-365 ในการขับเคลื่อนให้มันคุ้มค่าจริงๆ


อย่าขำช้า...เพื่อนจะเดือดร้อน


อย่าขำช้า...เพื่อนจะเดือดร้อน
นิทานเรื่องความรู้สึกช้า
วินทร์ เลียววาริณ 

สิงโตออกคำสั่งให้สัตว์ทั้งหลายในป่ามาเล่าเรื่องขำขันกัน เจ้าป่าประกาศว่า สัตว์แต่ละตัวต้องเล่าขำขันหนึ่งเรื่อง ถ้ามีสัตว์ผู้ฟังแม้ตัวเดียวที่ไม่หัวเราะ แสดงว่าขำขันเรื่องนั้นสอบไม่ผ่าน ผู้เล่าจะถูกสิงโตฆ่าตาย โทษฐานไม่ขำ
ลิงเป็นตัวแรกที่ลุกขึ้นเล่า ขำขันของลิงตลกมากจนสัตว์ทุกตัวหัวเราะงอหาย ยกเว้นเต่าซึ่งมองลิงด้วยความงง สายตาไม่มีแววขำเลยสักนิด ดังนั้นสิงโตจึงฆ่าลิงเสีย โทษฐานเล่าเรื่องไม่ตลก
ม้าลายเป็นรายถัดไป พอมันเล่าเรื่องจบ สัตว์ทั้งหลายก็โพล่งหัวเราะด้วยความขบขันอย่างยิ่ง ขำขันของม้าลายยอดเยี่ยมมาก แต่กระนั้นเต่าก็ยังไม่เห็นว่าเรื่องนั้นขำ สิงโตจึงฆ่าม้าลายเสีย
นักเล่ารายต่อไปคือยีราฟ แก๊กของมันตลกมากเช่นกัน แต่กระนั้นมันก็หนีไม่พ้นความตาย เพราะดูเหมือนมาตรฐานความขำของเต่าสูงเกินไป
กวางเป็นนักเล่าตัวถัดมา มันเล่าเรื่องขำขันที่ครอบครัวของมันเล่าต่อกันมาหลายชั่วรุ่นแล้ว ทุกครั้งที่เล่าก็ขำกันทั้งวงไม่เคยพลาด แต่กวางก็ไม่รอด เพราะเต่าไม่ขำเลยสักนิด
รายต่อไปคือกระรอก มันเล่าขำขันของมันไปไม่ทันจบเรื่อง เต่าก็โพล่งหัวเราะออกมาด้วยความขบขันเป็นที่สุด สัตว์ทั้งหลายมองตากันด้วยความงุนงง เพราะเรื่องที่กระรอกเล่ายังไม่จบและยังไม่ถึงจุดตลก แลเห็นเต่าหัวเราะขำกลิ้ง ร้องว่า
“โอ้ย! สุดยอด! ขำมาก ขำจริงๆ…”
สิงโตถามเต่าว่า “ขำอะไรวะ? กระรอกยังเล่าไม่จบเลย”
เต่าตอบว่า “โอ้ย! เรื่องขำขันของลิงนี่ขำจริงๆ!”
=============================
มันเป็นตลกที่เรียกว่า black comedy ความรู้สึกช้าของเต่าทำเพื่อนตายไปหลายตัว ในองค์กรก็เช่นกันนะ ถ้ารู้สึกช้าอาจมีคนเดือดร้อนหลายคน
แค่ขยัน ซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา แต่ความรู้สึกช้าอาจอยู่กันลำบากเพราะมันจะไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ยังมีวิธีคิดและทำงานแบบเดิมอยู่ไม่ได้ เดี๋ยวนี้การทำงานตามสั่งอย่างเดียวอาจไม่พอ สินค้าบริการดีอาจไม่พอ คงต้องมีวิสัยทัศน์ด้วย รู้ว่าโลก รู้ว่าพฤติกรรมคน และหลักปฎิบัติทางธุรกิจมันเปลี่ยนไป 
ถ้าเป็นเต่าขำช้า ที่ไม่รู้สึกรู้สม อาจมีเดือดร้อน และยิ่งรู้สึกตัวช้ายิ่งจ่ายราคาแพง ต้นทุนสูงขึ้น !!
ความรู้สึกช้ามันเกิดจากความชาชิน สิ่งที่มั่นคงวันนี้ อาจไม่มีในวันพรุ่งนี้นะ องค์กรอาจล้มหายตายจากไปได้ง่ายๆ ประมาทมีตายก่อน มันเป็นโลกของการแข่งขัน มันเป็นไฟลท์บังคับให้ธุรกิจต้องแข่งขันอย่างอัตโนมัติ
ไม่ประมาท = พร้อมลุยทุกเมื่อ พัฒนาตัวเอง ทันการณ์
มีวิสัยทัศน์ = มองกว้างมองไกล เห็นปัญหา อ่านสถานการณ์ออก 
หวังว่าทุกคนจะขำได้เร็วขึ้น 

คิดวันละอย่าง # 160

ขอโทษ...ไม่ต้องถ้า...
วิธีที่แย่ที่สุดของการขอโทษ คือ ขอโทษแบบไม่ได้ขอโทษ🙄
คำพูดน่ะ ขอโทษ แต่ไม่ได้ยอมรับผิดอะไรทั้งนั้น
ประมาณว่า...เราต้องขออภัยถ้าเรื่องนี้ทำให้ไม่พอใจ !!
คือ จะขอโทษ ไม่ต้องมี “ถ้า...” เข้ามาเป็นเงื่อนไข
เมื่อผิด นั่นเป็นความรับผิดชอบ
ต้องแสดงออกให้ชัดเจน และจะแก้ไขยังไง
ขอเสียทีไอ้ประโยค...
“ต้องขออภัยอย่างยิ่งในความไม่สะดวกที่อาจจะเกิดขึ้น”
 ต้องขออภัย... ทำไมต้อง “ต้อง” เวลาเราชนใคร เราจะพูดมั๊ยว่า ต้องขออภัย ไม่มีใครพูดแบบนั้น เราจะบอกว่า โอ๊ะ ขอโทษจริงๆค่ะ/ครับ คำพูด นำ้เสียงมันจริงใจกว่าเยอะ แสดงว่าเข้าใจความเสียหายได้ดี
 ความไม่สะดวก... คนจะใช้บริการ เมื่อให้บริการไม่ได้ มันไม่ใช่แค่ไม่สะดวก มันเป็นวิกฤติเป็นปัญหากันเลย น้ำไม่ไหล ไฟฟ้าดับมันไม่ใช่ไม่สะดวก บางธุรกิจมันเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นความเสียหายที่ประเมินแล้วหนัก ความไม่สะดวกนั้นมันเป็นเรื่องประมาณต้องรอคิวนาน อันนั้นแหละไม่สะดวก ใช้กับเหตุการณ์เล็กๆได้ ใหญ่ๆอย่าใช้ มันไม่จริงใจ แสดงว่าไม่รู้สึกถึงความเสียหาย
 ที่อาจจะเกิดขึ้น... อันนี้ถือว่าไม่จริงใจมาก ไม่ตั้งใจขอโทษ เหมือนเป็นนัยๆว่า มันอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ ยังไม่ยอมรับอีก นี่คือ ขอโทษแบบไม่ได้ขอโทษที่สุด 
ขอโทษ...อย่าแทงกั๊ก เพราะมันไม่ใช่การขอโทษ !!


วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2561

คิดวันละอย่าง # 159


จะสวยยังไงก็ทำด้วยพลาสติก
โลกนี้มีแต่ “มืออาชีพ” เต็มไปหมด แต่งตัวดี หรูหรา อาจเลยไปถึงวางท่าสมบรูณ์แบบไร้ที่ติ แต่มันไร้ชีวิตชีวา ไม่น่าผูกพัน เผลอๆน่าเบื่อเอาด้วย 
ความไม่สมบรูณ์แบบ คือ ของจริง อย่ากลัวที่จะมีจุดบกพร่อง เราเป็นคน มันต้องมีผิดเพี้ยนไปบ้างและใครๆก็ชอบของจริงมากกว่าของปลอม ดอกไม้พลาสติกไม่มีวันเหี่ยวแห้ง แต่มันไม่ feel ไม่ฟิน คนปกติก็ชอบดอกไม้จริงมากกว่า ถึงมันจะมีเหี่ยวแห้ง แต่นั่น คือ เรื่องของกาลเวลา เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต้องกังวลว่าจะดูดี จะพูดยังไงหรือจะต้องวางตัวยังไง เอาให้มันเป็นธรรมชาติ เอาตัวเป็นๆมาแสดงกันดีว่า ไม่เสียเวลา ไม่ผิดหวัง
ความไม่สมบรูณ์แบบ คือ ความงามอย่างหนึ่ง
ลอกเปลือกออกมา....
ยอมรับรอยร้าว รอยขีดข่วน ความบิดเบี้ยวที่เป็นคุณลักษณะ
...ที่เป็นคุณค่าเฉพาะตัว...
มันงามตามที่เป็นมากกว่าหน้ากากที่สวยไร้ที่ตินะ
อะไรที่มันถูกขัดเกลาจนสมบรูณ์ มันห่างจากความจริง
...มันขาดจิตวิญญาณ...
เอาเวอร์ชั่นล่าสุดที่ยังไม่สมบรูณ์แบบออกมา
อาจไม่ใช่มืออาชีพ...แต่จริงใจกว่าหลายเท่าตัว
ไม่มีใครชอบดอกไม้พลาสติก

วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2561

คนควรกรี๊ดดดด...กันบ้าง


กรี๊ดดดดดด
ไม่ต้องกรี๊ดใส่ใครนะ ลองกรี๊ดกับตัวเองสัก 30 วินาที มันจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี adrenalin พรึ่บพรั่บ เพราะทั้งตัวและหัวเราจะสั่น 
มีการศึกษามาว่ากรี๊ดเปลี่ยนอารมณ์ได้ 
มันอาจจะดูเพี้ยน ออกแนวชอบกล
แต่เชื่อเถอะ it works !!
กรี๊ดในรถ
กรี๊ดในห้องน้ำ
กรี๊ดในห้องนอน
หาที่ไว้กรี๊ดดดดด 
You will feel better!

วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

การจะเปลี่ยนอะไรต้องถามใจเธอดูก่อน

การจะเปลี่ยนอะไรต้องถามใจเธอดูก่อน
========================
ขับรถไม่เป็น เปลี่ยนเป็นเบนซ์ก็ยังขับไม่ได้
รักไม่เป็น เปลี่ยนแฟนก็ทำแทนไม่ได้
ทำงานช้า เปลี่ยนบริษัทก็ก้าวหน้าไม่ได้
การเรียนรู้ไม่พัฒนา เปลี่ยนตำราก็ไม่ได้ดีขึ้น
ไม่ตรงเวลา เปลี่ยนนาฬิกาก็ไม่ได้ช่วย
=========================
มันแปลว่าจะเปลี่ยนอะไรยังไงก็สู้เปลี่ยนตัวเองเสียก่อนไม่ได้


คิดวันละอย่าง # 158

ใจใหญ่ ทุกข์น้อย
ใจน้อย ทุกข์ใหญ่
เป็นที่เข้าใจกันนะว่าเกิดมามีทุกข์กันทุกคน
แต่มันอาจจะทุกข์น้อยลงได้...ถ้าเรามาใคร่ครวญกันดีดี
ความทุกข์ที่ผ่านมาในชีวิตส่วนใหญ่ คือ ไม่ได้ดังใจ
เจออะไรมากระทบก็ขุ่นใจ ทุกข์ใจ
คือ มันอยู่ที่ใจล้วนๆ มันไม่ได้ขึ้นกับอะไรที่มากระทบ
มันคือใจเล็กๆ ใจแคบๆของเราที่คิดถึงแต่ตัวเอง
แบบนี้..ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น...มันทุกข์หมดทุกสิ่งอย่าง...
แต่ถ้าใจกว้างๆ เข้าไว้
แม้เพื่อน หรือ แม้ใครจะไม่น่ารัก ลมฟ้าอากาศไม่เอื้อ ความซวยบังเกิด
ก็จะไม่ค่อยเป็นไร เพราะไม่ได้คิดถึงแค่ตัวเอง
..คิดเผื่อไปใจกว้างขึ้น อาการไม่พอใจ โกรธไปหมดจะน้อยลง 
คนที่ใจแคบใจเล็ก คิดถึงแต่ตัวเอง เจออะไรมากระทบก็ทุกข์
คนที่ใจกว้างใหญ่ แม้จะมีเรื่องร้ายเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ก็รู้สึกไม่เป็นไร

คิดวันละอย่าง # 157

อะไรที่ต้องยืดหยุ่นบ้างในชีวิต
ความยืดหยุ่นนี่ดีนะ..มัน คือ ความสามารถในการกลับสู่รูปเดิมหลังจากที่ถูกอัด ถูกบีบ ถูกกด แปลว่ามีการฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจากอะไรที่ทับถมเราอยู่ เช่น ความยาก ความทุกข์ ความซึม ความป่วย ฯลฯ 
สิ่งที่คนเราควรจะยืดหยุ่นได้ คือ
1. การเปลี่ยนแปลง : อะไรที่เปลี่ยนไป มันไม่คืนมา คิดไปเสียว่าทุกอย่างมันต้องเดินไปข้างหน้า จะมัวกลัว กังวล มันไม่มีประโยชน์
2. การถูกวิพากษ์วิจารณ์ : การไม่ถูกว่า ติฉินนินทาไม่มีในโลก รับไม่ได้ไม่เป็นไร ไม่มีใครชอบการถูกด่า แต่ถ้าเปิดใจรับฟังอย่างตรงไปตรงมา อาจสบายใจขึ้น
3. ความสะดวกสบาย : การมองหาความสะดวกสบายในทุกที่นั้น มันเป็นไปไม่ได้ มันเท่ากับเราคาดหวังในสิ่งที่ยังไม่มี ประมาณยังไม่ได้ซื้อหวย แต่อยากถูกหวย สู้แฮบปี้กับสิ่งที่มีอยู่ไม่ได้
4. อารมณ์ : อันนี้มีผลต่อความสงบในชีวิตมาก อย่าสุดๆไปในทุกอารมณ์ มันจะเลยเถิด ต้องฉลาดในการเข้าใจอารมณ์ตัวเองในขณะที่รู้สึก...ยากที่สุด แต่ถ้าทำได้จะดีที่สุด
5. อุปสรรค : ความยากนั้นเครียดไปก็ไม่ได้อะไร การใช้ชีวิตในแต่ละวันนั้น หาด้านที่ทำให้รู้สึกหัวเราะได้ ขำขำไปบ้าง เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้หมดจด ใจเย็น ค่อยๆ มองหาทางออกไป
เอาแค่นี้ก่อนไหม ถามตัวเอง...ยืดหยุ่นได้แค่ไหน? สามารถเรียนรู้จากทุกความผิดหวังและเริ่มต้นอีกครั้งได้ไหม?
ความยืดหยุ่นต้องการความเข้าใจที่ลึกซึ้งนะ และมันจะทำให้เราเป็นอิสระจากอะไรทั้งปวงที่ร้อยรัดอยู่ ในความยืดหยุ่นมันมีความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ขันอยู่ในนั้นด้วย แต่สำคัญที่สุด การยืดหยุ่นของเราจะต้องไม่เบียดเบียนคนอื่น !!