วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

คิดวันละอย่าง # 182

ผิด คือ ผิดไป อย่าได้ซับซ้อน

บางทีเราคิดว่ามันเรื่องเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นไร
แต่ไอ้ผิด แล้วปกปิดนี่ มันก่อให้เกิดโศกนาฎกรรมมามากเกินไปแล้ว
บ้านเมืองเรามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นมามาก จากการทำให้ผิด..กลายเป็นไม่ผิด
ส่วนใหญ่ที่ทำให้เรื่องผิดเพี้ยนไป มันเนื่องมากจากอัตตาสถาบัน วิชาชีพ ฯลฯ

หมอวินิจฉัยโรคผิด...กลบเกลื่อนไป เดี๋ยวเสียถึงโรงพยาบาล
ครูลวนลามเด็ก...ปิดบังไว้ เดี๋ยวโรงเรียนจะเสียชื่อ
พระราชาคณะฮุบเงินทอน...ซ่อนตัวกันพัลวัน เดี๋ยวศาสนาจะเสียหาย

นี่มันช่วยกันทำลายสังคมเลยนะ 
แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ผิด มันคือ ผิด 
เพราะว่า...มันลามใหญ่...
หมอผิด อาจถึงกับมีคนตายได้
ครูชั่ว ได้ใจข่มขืนเด็กจนตายก็มีให้เห็น

พวกนี้มันมาจากเรื่องเล็กๆที่เราคิดว่าไม่เป็นไร
และเราเอาสถาบัน เอาวิชาชีพเป็นใหญ่กว่าความผิดที่เกิดขึ้น
มันถูกแล้วหรือ...
หมอจ่ายยาผิด คนไข้ไม่เป็นอะไร ก็ต้องผิด
ครูบวกคะแนนผิด นักเรียนอาจไม่ถึงกับสอบตก แต่มันก็ผิด
อย่าต่อ...ให้มันลุกมันลามไปเป็นเรื่องใหญ่ 
มันจะกลายเป็นปัญหาสังคม ลูกหลานจะเดือดร้อน 


ที่คิดว่าไม่เป็นไร...มันเป็นไร และเป็นมากด้วยนะ 


วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ตรวจสอบ “เวลา” ของตัวเองบ้างก็ดี !!

ไม่มีเวลา... บอกเลยว่า ไม่จริง เวลาอยู่กับเราตลอด เพียงแค่มันเก็บไว้ไม่ได้ มันหมดไปทุกขณะที่หายใจเข้าออก มันอยู่ที่เราใช้เวลายังไงมากกว่า...
เราใช้เวลากับทุกอย่างที่ทำในชีวิต แม้แต่ตอนนิ่งๆ ไม่ทำอะไรเลย...ก็ยังต้องใช้เวลาอยู่ดี และเวลานั้น..ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ หมดแล้ว หมดเลย 
บางคนอาจยังมองไม่เห็น และคิดว่าเวลายังเหลืออยู่มาก บอกอีกทีว่า...มันไม่จริง ไม่มีใครมีเวลาเหลือเฟือ เราใช้มันอยู่ทุกลมหายใจ มันหมดไปทุกวินาที ที่แย่ คือ เรามักจะลงเอยด้วยคำพูดว่า..รู้แบบนี้ ทำตั้งแต่แรกก็ดี !! เห็นมั๊ย มันน่ามาทบทวนการใช้เวลากันมั๊ย 
อีกอย่างนะ เจ้าเวลานี้ ถ้าใช้ไปกับอะไรมากๆ คนจะกลายเป็นแบบนั้น อยู่ที่เราแล้วว่า...อยากได้ อยากเป็นอะไรในชีวิตนี้ จัดสรรเวลาลงไปเลย อยากเก่งกีฬา...ใช้เวลากับกีฬาให้สุด อยากให้ใครรัก...ใช้เวลากับคนนั้นให้มาก มันแปลว่า... คนจะประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง ถ้าใช้เวลาให้มันถูกเรื่อง
ไม่มีอะไรมากนะ 
แค่ถามตัวเองว่าทุกวันนี้ใช้เวลาที่เหลือในชีวิต..(ซึ่งไม่รู้เหลือเท่าไหร่)
ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง...เต็มที่แล้วหรือยัง 
มันเป็นเรื่องการรู้ค่าของเวลาและวางแผนการใช้เวลา !!

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

คิดวันละอย่าง # 181


จะไป...ต้องปล่อย
ความสัมพันธ์ใดใด มันอยู่ที่ใจเกี่ยวกัน
ถ้าใจไม่เกี่ยว...ยึดเหนี่ยวยังไงก็ไปอยู่ดี
และอยากบอกว่า...อย่าเสียเวลา “ยื้อ” 
คนไม่รัก ต่อให้ตะโกนยังไง ทำอะไรเต็มที่แค่ไหน
ตะโกนดังๆว่ารัก...บอกเลยว่า..ไม่ได้ยิน
หรือถ้าคิดว่าเอาความดีเข้าสู้ แล้วคนจะเห็นใจ เห็นความดี
ความดีชนะได้..บอกเลยว่า..โง่หรือเปล่า
บ่วงอะไรก็เอาไม่อยู่...ดูเหมือนจะเอาอยู่ แต่ไม่มีทางมีความสุข 
แล้วจะยังไง...
ไม่ต้องยังไง...คิดเสียว่าเป็นเวรกรรม
เกิดมาก็เพื่อชดใช้กรรมร่วมกัน กรรมหมดก็ไป..ก็แค่นั้น
ถ้ายังไม่หมด ก็ชดใช้กรรมต่อไป
คือ คนเราไม่จากเป็น ก็จากตายอ่ะนะ
ความจริง คือ ยังไงก็ต้องจาก !!
แม้แต่ตัวเอง ในวันหนึ่งก็ต้องจากไปเช่นกัน
คนมันมีเสื่อมสภาพ เป็นธรรมดา ไม่มีอะไรถาวร 
ทำบุญ ทำกุศล สวดมนต์ให้สบายใจไปเถอะ
ไม่มีอะไรเปลี่ยนพฤติกรรมคนที่หมดรักได้
ก็มันหมดไปแล้ว...ถ้าไม่หมด มันจะทำร้ายกันไหม 
แล้วก็ไม่ต้องฟูมฟาย เห็นตัวเองไร้ค่า เป็นทุกข์ จมทุกข์
พระท่านว่า...
อย่าเป็นทุกข์ให้โง่ ทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นทุกข์
(ท่านพุทธทาส)
ในโลกนี้มันมีอะไรหลายอย่างที่สำคัญกว่าการจะนั่งทุกข์
แค่ลมหายใจตัวเองก็สำคัญมากแล้ว
ไม่มีลมหายใจ จะมาอมทุกข์ได้ไหม...
มันไม่ตายหรอกนะ...แค่คนไม่รักเนี่ย..
เมตตาตัวเองเยอะๆนะ อย่าบีบคั้นตัวเอง มันเหนื่อย

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ใจดีก็ดี...แต่มากไป ชักไม่ดี

การใจดี เอื้ออาทรเป็นคุณสมบัติที่ดีมาก 
ถือว่าเป็นคุณสมบัติสุดเจ๋งของคนเราเลยนะ 
แต่ใจดีมากเกินไปนั้น..อาจทำให้ตัวเองมีปัญหาตามมา 
จริงอยู่ว่าการแคร์คนอื่นเป็นเรื่องเมตตา เป็นเรื่องวิเศษ
แต่ถ้ามันมาถึงจุดที่ทำลายตัวคุณเอง ทำลายความสุขของคุณ 
อันนี้..ไม่ค่อยจะงามแล้ว... 

ลองมาดูว่ามันมีสัญญาณอะไรบ้างที่ส่งมาว่า..คุณใจดีเกินไป 
  1. ถูกเอาเปรียบประจำ : ถ้าคุณยอมตลอด ผู้คนทั้งโลกหล้าจะคาดหวังว่าจะได้ทุกอย่างที่ต้องการจากคุณ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะการณ์ไหน  การที่ไม่ยอมไม่ได้แปลว่าไร้ใจ ไร้เมตตา ไม่เอื่ออาทรคนอื่น  เพราะเมื่อมันสุดสุดแล้วกับการถูกกระทำ เราไม่มีความสุข มันไม่ผิดที่จะปฎิเสธกันบ้างนะ
  2. ไม่กล้าแสดงออก หรือ แสดงความคิดเห็นที่แท้จริงของตัวเอง : คุณกำลังเก็บงำความคิด เก็บเงียบว่ากำลังคิดอะไรอยู่หรือเปล่า ไม่กล้าบอกตรงๆว่าไม่เห็นด้วยกับพรรคพวก เพราะถ้าบอกออกไปก็กลัวจะไม่ได้เป็นพวกกัน  แต่อย่าลืมว่าการแคร์คนอื่นมากไปนั้นอาจทำให้คุณใกล้บ้าได้  กลับมาสู้ความจริง ในโลกนี้มันไม่มีใครสามารถทำให้ทุกคนรัก ชอบได้หมดนะ  มีสติ เป็นตัวของตัวเองไป ถ้าคนจะรักจะชอบคุณ ไม่ว่าคุณจะคิด จะเป็นยังไง คนก็รักอยู่ดีนั่นแหละ และตรงกันข้าม ทำดี เอออวยขนาดไหน ถ้าคนจะชัง ก็ชังอยู่ดีนะ
  3. ไม่มีเวลาเพียงพอในการดูแลตัวเอง : เมื่อคุณให้เวลาทั้งหมดในการทำให้คนอื่นมีความสุข...ยกเว้นตัวคุณเอง  มันแปลว่าคุณไม่มีเวลาเหลือสำหรับตัวเองเลย  จะดีหรือ????  คือไม่มีเวลาในการทำสิ่งที่ดีดี สิ่งที่รักที่ชอบของตัวเองเลย มันไม่ถูกนะ  มันต้องมีรักตัวเองดูแลตัวเองได้บ้างมั๊ย ก่อนจะไปทำอะไรดีดีให้คนอื่น พลังมันจะไม่เหลือนะ ถ้าคุณไม่มีเวลาพัก เวลาหายใจ เวลาชาร์ตแบตตัวเองน่ะ
  4. เป็นเหยื่อของพวกเสียนิสัย : พวกเสียนิสัยต้องการคนมานั่งฟังความทุกข์ระทมของตัวเอง หรือต้องการความช่วยเหลือตลอดเวลา คุณไม่ใช่พรมเช็ดเท้าหน้าบ้านนะ ที่ใครๆก็มาเช็ดๆแล้วก็ไป โดยไม่สนใจว่าคุณจะว่าง ไม่ว่าง คุณจะรู้สึกอย่างไร แบบนี้มันถือว่า  asking too much  ถอยตัวเองออกบ้างก็ไม่ได้ใจร้ายอะไร  ช่วยได้เท่าที่คุณยังมีความสุข แต่ถ้าช่วยไปทุกข์ไปก็ตัวใครตัวมัน

ใจดีกับคนอื่น...อย่าลืมใจดีกับตัวเองด้วย 

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

คิดวันละอย่าง # 180

วันอาทิตย์...จริตไม่ได้มีไว้ดัด

เห็นบางคนมุ่งมั่นอะไรก็เอามันสุดสุดนี่ อึดอัดแทนนะ
มันดัดจริตตัวเอง ทำให้ใจขุ่นมัว อยู่ท่ามกลางความทุกข์ทรมาน
ไม่มีสุข ไม่สดชื่น เป็นโรคภัยอะไรก็ไม่หาย

รักใครก็หัวปักหัวปำ ไม่เงยหน้ามองฟ้าดิน
ทำงานก็ลุยบ้า จนหนังหน้าเหี่ยว
นุ่งขาวห่มขาว เอาแต่บุญ เข้าแต่วัด แต่ไม่มองตัวตน
กินพืชผักสุดโต่ง อย่างอื่นมิต้าไม่
แบรนด์นอกนำหน้าโด่ง โจงกระเบนไม่เอา
ฯลฯ

ลองกลางๆ ไม่ดัดมากไป ไม่ดัดน้อยไป ดูมั่งมั๊ย
จะได้กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในจริตที่เหมาะสม
....โดยธรรมชาติ โดยความจริง....
ดัดมากเดี๋ยวสำคัญตัวผิด
คิดว่าประเสริฐแล้ว ดีเลิศ สวยล้ำ น่ารักกิ๊บกิ๊ว
อันนี้พระท่านว่ากำลังเป็นอวิชชาเต็มตัว
และทางที่ดี คือ มัชฌิมา
มัชฌิมา คือ ความเหมาะสมอยู่ตลอด

พวกเรานี่ถือเป็นพวกมีปัญญาแล้วนะ
ถึงขั้นนี้มันต้องใช้กันให้ผาดโผนเต็มที่
เพราะมันจะแก้ความดัดจริตได้ สู้กับความดัดจริตได้
ปัญญาเราต้องเป็นปัญญาที่ผาดโผนโจนทะยาน
ไม่งั้นไม่ทันกัน ไม่ทันโลก

ว่าแล้วก็เอาปัญญาจ่อเข้าไปตรงจริตกันเลย !!


วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

คิดวันละอย่าง # 179


manipulation 🙄
มันมีคนที่มักจะ manipulate คนอื่น จะตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี
แต่คนได้ยินมันโดนไปแล้ว !! 
มัน manipulate กันได้หลายเรื่องและด้วยคำพูดที่หลุดออกมา !! 
👉เรื่องของการกล่าวโทษ 
“ดูดิ๊ มึงทำให้กูต้องทำแบบนี้ เพราะมึงอ่ะ” 
ตอบ : โทษที กูไม่มี power ที่จะให้มึงทำอะไรทั้งนั้น มึงเลือกทำของมึงเอง ก็รับผิดชอบซิโว้ย 
👉เรื่องของการทวงบุญคุณ
“เฮ้ย มึงจะไม่พอใจ ไม่ดีกับกูได้ไง กูอุตส่าห์ให้ของดีของแพงๆมึงตั้งเยอะ”
ตอบ : เอิ่ม บางอย่างเงินมันซื้อกันไม่ได้นะเว้ย คำขอโทษนี่เงินซื้อไม่ได้ ที่ให้อะไรๆนั่นมันไม่ใช่อยากให้ มันเป็นสินบนหรือไง สินบนมันเอาคืนไม่ได้นะ
👉เรื่องของความไว้ใจ 
“จะทำอะไร เอามาดูก่อน อะไรเนี่ย มันดีละยัง มันคุ้มมั๊ย ไม่ใช่ไม่เชื่อนะ แต่คนอื่นมันไว้ใจไม่ได้” 
ตอบ : มึงไม่ต้องเชื่อคนอื่น มึงเชื่อกูนี่ ความไว้ใจมันไม่มีหรือไง
👉เรื่องของการเคารพ
“ฟังก่อน ฟัง รู้ว่ามึงรู้สึกยังไง แต่ทำตามที่กูว่า มันจะดีที่สุด” 
ตอบ : อะไรดีน่ะ กูคิดเองได้ แต่จะดีกว่านั้นก็เคารพความคิดกันมั่ง ตกลงมันดีสำหรับมึง หรือ สำหรับกู
👉เรื่องของการมีเงื่อนไข
“ถ้ามึงไป กูจะฆ่าตัวตาย”
ตอบ : เรียก 191 เลยมึง กูตัดสินใจแล้ว อธิบายเหตุผลแล้ว ไป คือ ไป 
👉เรื่องของความใจแคบ
“มึงไม่ต้องคบใครอีก กูจะอยู่แค่นี้ กูสบายใจ”
ตอบ : โอเคมึงสบายใจ มึงมีสังคมมึงได้ กูมีไม่ได้งั้น กูตัดสินใจเองได้มั่งมั๊ย การคบกันมีหลายแบบ กูเลือกได้ จบข่าว
เจอแบบนี้บางทีพี่ก็เงิบไป... ตอบแบบนี้ได้มั๊ย 55

วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

คิดวันละอย่าง # 178

ใจพอ...ความไม่จีรังของอะไรก็ขวางไม่ได้ 

คนเราเกิดมามันต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้นะ 
เพราะเราเจอแน่ทั้งเรื่องร้ายทำลายใจ และเรื่องโรคทำลายกาย

เรื่องร้ายทำลายใจนั้น....อยู่ที่เอาใจไปปราบ 
หายใจลึกๆสัก 5 นาทีทุกวัน...จริงๆแล้วทุกข์มันอยู่ที่เราคิด เราหวัง 
ประมาณ ทำดีแล้ว ต้องได้ดีตอบแทน 
เราทำดีแล้ว ทำไมมองไม่เห็น
ลืมไปหรือเปล่าว่า การจะมองเห็น...มันเป็นเรื่องของคนอื่น 
ไม่ใช่ว่าเราทำดีแล้ว คนอื่นต้องเห็น ต้องชื่นชม
การทำความดี...บางครั้ง... มันก็ซื้อใจใครไม่ได้
อย่าได้เสียใจ ทุกข์ใจ เพราะถ้าเสียใจ ทุกข์ใจ
แปลว่า...เราทำดีหวังความดี หวังความรักตอบแทน..หรือ??? 

แต่เรื่องโรคทำลายกายนี่ ถึงไม่ได้ทำอะไร มันก็จะมานะ 
มันเป็นความเสื่อม  มันฝืนสังขารไม่ได้ 
เกิด แก่ เจ็บ ตาย คือ สัจธรรม...เข้าใจวงจรชีวิตซะ

ทั้งเรื่องร้าย เรื่องโรค มันแค่...
เราต้องปรับภาพในใจ ปรับทัศนคติ และปรับอารมณ์ของตัวเอง 
แม้จะเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่ก็เป็นตัวแปรที่ส่งผลถึงความเจ็บใจและเจ็บป่วย 
คือมันตรงดิ่งไปที่สุขภาพนะ...ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต

การใช้ชีวิตผิดๆ ตัดสินใจผิด กินผิด 
เป็นการเร่งให้ทุกอย่างผิดปกติ 
สังขารก็ร่วงโรยเร็ว ใจก็เหลือน้อยเต็มที
ชีวิตมันเป็นเหตุเป็นผลกัน...ยอมรับมันไป

รับผิดชอบความเจ็บใจของตัวเอง
รับผิดชอบความเจ็บป่วยของตัวเอง
เอาเป็นว่าเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส...
เจ็บใจ เจ็บป่วย เอาไว้เตือน...เตือนที่เคยเพลิดไปกับชีวิต
จนไม่ได้คิดถึงกาย คิดถึงใจตัวเอง...

ชีวิตไม่ได้ยาวขนาดนั้น... สร้างกาย ใจดีดีเตรียมไว้ 
เผื่อจะฟื้นฟูเร็วเวลามีอะไรเกิดขึ้น จะได้ไม่ต้องวิตกจริตมากนัก
วิตกจริต = กังวล = กระสับกระส่าย = เศร้าหมอง
จะใช้ชีวิตที่เหลือแบบนั้นหรือ...มันไม่ใช่นะ 
มันต้องใจสู้ อยู่เป็น 

ย้ำ...ใจพอ...ความไม่จีรังของอะไรก็ขวางไม่ได้ 



คิดวันละอย่าง # 177


เอาหมาเน่าออกมา
คนเรามักยึดเอาความดีงามมาเป็นตัวตั้งในการทำให้ตัวเองดีขึ้น
ซึ่งก็ดีนะ แต่ลองหักมุม หักดิบกันบ้างน่าจะโดนกว่า  
คือ เอาความเลวของตัวเองขึ้นมาดูกันมั่ง มันจะแซ่บ แสบทะลุใจ
ความดีงามทั้งหลายมันดีของมันอยู่แล้ว รับๆมองๆทำๆไป
แต่ความเลวของเรานั้นมันถูกฝังอย่างตั้งใจ แบบลึกสุดใจ
จน (แกล้ง) ลืมไปว่า...มันเข้าแถวยืนตรงเคารพธงชาติพร้อมเราทุกวัน
มันยังเตรียมพร้อมกระโจนออกมาทุกเมื่อที่มีอะไร ที่เราไม่ชอบใจเกิดขึ้น
บางทีก็รู้ว่า...มันออกมาอีกแล้ว
บางทีก็ไม่ทันรู้ด้วยซ้ำ...อ้าว ออกมาด้วยเหรอ 
การนำเอาความเลวมาตีแผ่อย่างตรงไปตรงมานั้น คือ การเริ่มต้น “ยอมรับตัวตน” มันคือจุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลงของคน
งก ก็ว่างก
เห็นแก่ตัว ก็ว่าเห็นแก่ตัว
อิจฉา ก็ว่าอิจฉา
ขี้เกียจ ก็ว่าขี้เกียจ
ขี้โม้ ขี้อวด ขี้นินทา ก็ว่าไปตามนั้น
เอามากองรวมกันดู...จะเห็นตัวตนชัด
ไม่ต้องเหนื่อยหลอกตัวเองอีกต่อไป 
เราไม่สามารถจะดีขึ้นได้โดยโหนแค่ความดีของตัวเองข้างเดียว
มันดีขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่เอาอีกข้างที่เป็นหมาเน่าๆออกมาด้วย
โหนบุญ ไม่ได้ทำให้บาปหมดไป