วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

สุดโต่ง = เป็นทุกข์



สุดโต่งบางเรื่องพอทน...สุดโต่งทุกเรื่องเดือดร้อน (ตัวเอง)
extreme สุดขั้ว ไม่มีสายกลาง...

สุดโต่งนี่เกิดจากจิตใจตัวเองเป็นหลัก 
คนอื่น สถานะการณ์อื่นไม่ค่อยเกี่ยวนะ 

หมอที่รักษาโรคจิตว่าไว้...ว่า...
คนสุดโต่งเป็นคนชอบโทษคนอื่นมากๆ โทษไปทั่ว
...แต่ไม่เคยโทษตัวเอง
เป็นคนรักใคร ชอบใคร เกลียดใครก็ลืมหูลืมตาไม่ขึ้น
รักใครก็รักเหลือเกิน ทั้งๆที่คนนั้นก็ไม่ได้มีค่าควรรักขนาดนั้น
เกลียดใคร ไม่ชอบใครก็ไม่สมเหตุสมผล สักแต่ว่าไม่ชอบ

มันขึ้นกับอารมณ์ จิตใจ จริงๆ ไม่มีข้ออ้างเลย
คนสุดโต่งต้องการสภาพที่ตัวเองพอใจเท่านั้น
ไม่มีทางสายกลาง ไม่ยืดหยุ่น 
ไม่ยอมเสียสละ ไม่ยอมลง ไม่ยอมปลง
หงุดหงิดได้ทุกเรื่อง....

มันคงต้องกลับมาถามตัวเอง...เป็นชาวพุทธหรือเปล่า..
หรือแค่สวดมนต์ ทำบุญไป แต่ไม่ปฎิบัติตามทางสายกลาง !!

สุดโต่ง โทษดินฟ้า = อ่อนแอ ขาดพลังการเรียนรู้ ขาดปัญญา

กลับมาที่สมาธิ สติ ปัญญา พัฒนาใจให้เข้มแข็ง
...มารับผิดชอบต่อความอ่อนแอของจิตใจเรา
รับผิดชอบต่อ ทุกข์–สุข  ชอบ–ไม่ชอบ ของตัวเอง  
คนอื่นไม่ได้ทำให้เป็นทุกข์  จะได้เลิกโทษคนอื่น

คิดง่ายๆเลย...
ตอนนี้กำลังคิดลบ หรือบวก มันมีเหตุจริงๆจากอะไร ?
หาสมดุล  = ไม่มากไป  ไม่น้อยไป
ไม่ต้องรักจนหลง หรือเกลียดแบบอคติ  
ใจมันจะไม่สงบ...โรคภัยเบียดเบียนไม่รู้ตัว
ไม่คาดหวังมากเกินไป  เพราะถ้าหากได้มาเราก็ดีใจ...ชอบใจ  
แต่ถ้าไม่ได้เราก็จะโกรธ เกลียด หงุดหงิด อารมณ์เสีย 
โทษชาวบ้านว่าทำให้เราไม่มีความสุขอีก...อ้าว

ท่องไว้ทางสายกลาง ๆๆ  
สื่อสารเงียบๆกับตัวเองบ่อยๆ 
จนรู้ว่าชีวิตเราต้องการอะไรจริง ๆ....บ้าง

สุดโต่ง = เป็นทุกข์

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559

คนอื่นที่ไม่คู่ควรกับแรงใจ

บางที...มันเสียเวลา เสียความพยายาม
ที่จะเปลี่ยน "ความคิด" คนอื่นที่ไม่คู่ควรกับแรงใจ
เพราะว่า....
- คนจะเชื่อเฉพาะสิ่งที่อยากจะเชื่อ
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าคนอื่นคิดอะไรอยู่ ปล่อยไปเถอะ เราไม่มีวันควบคุมความคิดของคนอื่นได้ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน จะมัวเสียเวลาไปทำไม ถ้ามันไม่คุ้มกับความพยายาม
- ความคิดของคนอื่นไม่ใช่เรื่องของเรา
ยิ่งห่วงความคิดของคนอื่นมากเท่าไหร่ มันจะยิ่งมีอิทธิพลต่อตัวเราเท่านั้น จะเปลี่ยนตัวเองเพียงเพื่อให้คนอื่นประทับใจเหรอ มันใช่เหรอ ใครมีสิทธิ์จะคิดอย่างไรกับเราก็ได้ มันเรื่องของเขาต่อให้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเราก็เหอะ และเราจะคิดอะไร มันก็เรื่องของเรา 
- คนอื่นก็ไม่สนใจสิ่งที่เราคิดเช่นกัน
ทุกคนล้วนถือเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางในการตัดสินคนอื่น อย่าห่วงไปให้เสียเวลา คนอื่นนั้นก็กำลังห่วงความคิดเขาอยู่เหมือนกัน เราจะไปยุ่งกับความคิดเขาทำไม 
- เราไม่จำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากคนอื่น
คนส่วนใหญ่จะรู้สึกดีว่าการกระทำหรือคำพูดของเราเป็นที่ยอมรับของคนอื่น แต่ถ้าพบว่าไม่ได้รับการยอมรับ ก็ไม่ต้องสติแตก ไม่ต้องลุ่มหลงกับการเป็นที่ยอมรับ มันเหนื่อยนะที่เอาแต่ไขว่คว้าการยอมรับอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
- คนที่ไม่ใช่ คือ ไม่ใช่
ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรให้มาก คนอื่นคิดผิดเกี่ยวกับเราแล้วยังไง คนอื่นไม่ประทับใจเราแล้วยังไง ยิ่งถ้าไม่ใช่คนสำคัญในชีวิต ยิ่งไม่คู่ควรที่จะเปลืองความคิด เผลอๆมันจะทำให้เราละเลยคนสำคัญของเราไป เพราะมัวหมกมุ่นกับการสร้างความประทับใจกับคนที่ไม่ใช่ 

ที่ว่ามานี้ไม่ได้บอกให้เลิกสนใจคนอื่นโดยสิ้นเชิง แต่ให้เลิกสนใจเพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างราบรื่น จะได้ตัดสินใจอะไรให้มันดีได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องทำลายคุณค่าตัวเองเพื่อให้คนอื่นในโลกนี้ยอมรับตัวตนของเราทุกคน 
....มันเป็นไปไม่ได้ !!
เลือกสนใจ เลือกใส่ใจกับคนที่ชอบคนที่ใช่ !!

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

ข้ออ้าง...อ้างไปเสียเวลา อ้างมาหลอกตัวเอง

ข้ออ้าง คือ กับดักให้อยู่เดิมๆ
1. ไม่มีเวลา : 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่ออาทิตย์ 365 วันต่อปี ทุกคนมีเวลาเท่ากัน มันไม่ใช่ข้ออ้าง บริหารเวลาไป 
2. ไม่มีเงิน : เงินน่ะมี แต่ priority ต่างกัน การจัดลำดับความสำคัญในชีวิต คือ การจัดสรรเงินทอง
3. ไม่มีใครสอน : ทุกคนต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง อย่าไปหวังพึ่งใคร เพราะที่ได้มัน คือ บุญคุณล้วนๆ
4. ไม่มีโอกาสดีดี : โอกาสเหมือนรถเมล์ มาบ่อยๆ อยู่ที่พร้อมหรือไม่จะกระโดดขึ้นไปเท่านั้น
5. ต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่ากัน : คนเรามีขันธ์ 5 เป็นต้นทุนเท่ากันทุกคน นอกนั้นปลอมหมด คิดดูให้ดี
6. โชคไม่ดี : ถ้าทุกอย่างขึ้นกับโชค คนคงไม่ต้องทำงานหนักนะ มันไม่ได้มีผลต่อชีวิตขนาดนั้น 
7. ไม่ได้เกิดมามีพร้อมเหมือนคนอื่น : ครบ 32 ก็ถือว่าพร้อมกว่าอีกหลายชีวิตแล้วละ
8. ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ : ทิ้งความดีงามไว้บ้างก็ได้ เกิดมาทั้งที
9. เงินซื้อความสุขไม่ได้ : จริงอยู่ แต่ลองถามใจตัวเองดีดีอีกที ทุกวันนี้ทำงานไปทำไม เงินซื้อความสุขไม่ได้ แต่คนต้องกินต้องใช้ 
10. พรุ่งนี้ไม่สาย : คิดแบบนี้ อ้างแบบนี้ ยังไม่เคยเจอตลาดวายละซิ ทำอะไรได้ให้ไว วันนี้แหละดีที่สุด
อ้างไปเสียเวลา อ้างมาหลอกตัวเอง !!
ถ้าอยากได้ ถ้าคิดว่าสำคัญ...มันจะไม่มีข้ออ้าง !!

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

คิดวันละอย่าง # 54


เผื่อใจไว้สักหน่อย

เวลามองโลก มองเหตุการณ์บ้านเมืองหรือภาวะเศรษฐกิจ เรามักจะเห็นแต่ปัญหาหรืออนาคตที่หม่นหมอง มองคนรอบตัวก็จะเห็นด้านลบก่อน แต่ที่น่าแปลก คือ เวลามองตัวเอง กลับมองว่าตัวเองดี มองแง่ดีตลอด ซึ่งการมองชีวิตของตัวเองในแง่ดีนั้นเป็นธรรมดาของคน เชื่อว่ามันเป็นสัญชาตญาณที่ติดมากับเผ่าพันธุ์หรือผูกติดสมองของคนเลย แต่หากเรามัวแต่มองชีวิตในแง่ดีแบบนี้ ก็ง่ายที่จะประมาทกับชีวิต (กว่าจะฮู้คิง น้ำปิงปอแห้ง)

ดังนั้นจึงควรที่จะมีบางอย่างมาถ่วงดุลกับสัญชาตญาณของเรา คือ มองชีวิตแง่ดี ก็ดีแล้ว แต่ก็ควรเผื่อใจไว้บ้างว่าปัญหาหรือสิ่งเลวร้ายสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน

.....ต้องเตรียมใจ

วิธีเตรียมใจอย่างหนึ่ง คือ การมองว่า ความแก่ ความป่วย ความตาย จะต้องเกิดขึ้น ไม่มีใครหนีพ้น เช่นเดียวกับความพลัดพราก ความผิดหวัง ความเสียใจ แบบนี้มันจะช่วยไม่ให้เพลิดเพลินหลงใหลในความสุขและความสำเร็จเกินไป อย่างน้อยก็ได้เตรียมใจพร้อมรับกับความผันผวนได้บ้าง

อันนั้น คือ การพิจารณาถึงความจริงของชีวิตระยะยาว แต่สำหรับการมีชีวิตในแต่ละวัน ก็ควรต้องมีการต้องเตือนใจ เผื่อใจไว้เช่นกัน คือ ไม่ว่าจะทำอะไร ก็เผื่อใจไว้ว่าอาจไม่เป็นอย่างที่คาดหวังก็ได้ เช่น
...เวลาไปร้านอาหารก็เผื่อใจไว้ว่าอาจไม่อร่อยสมใจ
...เวลาไปเที่ยว ก็เผื่อใจไว้อาจไม่สนุกดังหวัง
...เวลาทำงาน ก็ควรเผื่อใจสำหรับความล้มเหลว
...เวลาไปตรวจสุขภาพ ก็ควรเผื่อใจว่าอาจพบโรคร้าย
และอื่นๆอีกมากมายนัก....
การเผื่อใจจะช่วยให้เราไม่เซ หรือ เสียศูนย์เมื่อเจอความพลิกผัน

มันต้องมองชีวิตแบบเผื่อๆกันบ้าง...
เพื่อไม่ให้ความทุกข์กลับมาทำลายตัวเราเองและคนรอบข้าง คือ

...คนเราควรมีความสุขได้ด้วยตัวเอง  คนอื่นเป็นแค่โบนัสที่เพิ่มเข้ามาในชีวิต 

...คนเราควรให้คนอื่นเกิดสุขด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ความสุขของตัวเอง

...คนเราควรลดความคาดหวัง คาดหวังน้อย สมหวังมาก

...คนเราควรรู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลงเพราะมันเป็นธรรมดาของโลก

...คนเราควรเรียนรู้ที่จะยอมรับความแตกต่าง โดยเฉพาะความคิดของคนอื่น ความคิดไม่ตรงกันถือเป็นเรื่องธรรมชาติ หากไม่พยายามทำให้อีกฝ่ายคิดเหมือนกันและเข้าใจถึงเหตุของการคิดต่าง ปัญหาจะน้อยลง ถ้าเข้าใจและยอมรับได้ ใครทำตัวไม่ถูกใจ ใครไม่น่ารัก  ใครขี้บ่น  ใครใจร้อน  เราก็จะปรับใจตามได้ รักกันง่ายขึ้น

...คนเราไม่ควรทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ หรือ สิ่งที่ตนคิดว่าดี มองถึงความต้องการคนอื่นด้วย จะได้ไม่ต้องมาน้อยใจว่าอุตส่าห์หวังดี แต่คนไม่เห็นคุณค่า

...คนเราต้องมีความเกรงใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะบางทีใกล้ชิดสนิทกัน มักคิดว่าจะทำอะไรตามใจตัวได้แทบทุกเรื่อง จนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย


จะให้ดีต่อสุขภาพจิต ทุกคนควรคิด “เผื่อใจ”
ชีวิต คือ ดอกไม้สวยงาม
มีไว้ให้ชื่นชม ไม่ใช่ยึดติด !!

วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559

คิดวันละอย่าง # 53

สงกรานต์อารมณ์ดี..อารมณ์ดีน่าจะมีทุกวัน
คนจะอารมณ์ดี คือ...
- ต้องอาบน้ำ..พี่ไม่ได้มาเล่นๆ อาบน้ำนี่มันสดชื่นทันทีนะ
- มีหัวใจศิลปิน มองสิ่งต่างๆอย่างอ่อนโยน สวยงาม อารมณ์จะดีตามไปด้วย
- หาคนอยู่ด้วยที่สบายๆ คนหงุดหงิดอยู่ด้วย..จะบ้าตายไปก่อน
- เปิดใจ อย่าไร้อารมณ์ อย่าเก็บกด
- ท่องไว้...พอ พอ พอ พอดีของตัวเอง อารมณ์จะสดใส ไม่วิ่งตามมันเหนื่อย
- กินดีดี กินครบ กินผัก ท้องไส้จะได้ไม่ปั่นป่วนอารมณ์เสีย
- ให้..ให้ได้ทุกวันจะให้ยิ้ม ให้คำชม ให้ความช่วยเหลือ..ให้ไป
- ป่วย..ให้รีบรักษา ร่างกายดี ใจจะดีตาม
- หาอะไรขำขำมาจรรโลงอารมณ์ หัวเราะช่วยยืดชีวิต ยืดอารมณ์ดี
- นอน อยากมีอารมณ์ดีจะต้องนอนให้พอ
- อย่ายาก...เข้าใจอะไรให้มันง่าย ๆ จะได้ไม่รำคาญตัวเองและชาวบ้าน
- หาวิตามินกินมั่ง ไม่ได้ผลทางกายก็ทางใจ 
พอละกระมัง...แค่นี้ก็อารมณ์ดีจะแย่แล้ว 
Happy Songkran นะพี่น้อง














รูปนี้มันได้อารมณ์สงกรานต์จริงจริง kiki emoticon

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559

สัญญาณการมีชีวิตที่ดี


สัญญาณการมีชีวิตที่ดี (ถึงแม้จะ "ยัง" ไม่รู้สึกก็ตาม)
1. ยังมีชีวิตอยู่
ตราบใดที่ปัญหา อุปสรรคไม่ได้น็อคจนเราตาย ชีวิตยังอยู่ มีลมหายใจ นั่นดีที่สุดแล้ว 

2. ยังมีหลังคาคุ้มหัว
ปีที่แล้วเฉพาะในกรุงเทพ มูลนิธิอิสรชนพบว่า มีผู้ไร้บ้านอยู่ 3,249 คน ในเมื่อยังมีเตียงนอนสบาย มีบ้านอยู่อาศัย ต้องขอบคุณชีวิตตัวเอง

3. ยังอยากพัฒนาตนเอง
Bruce Lee ว่าไว้ " If you always put limits on everything you do, physical or anything else. It will spread into your work and into your life. There are no limits. There are only plateaus, and you must not stay there, you must go beyond them." ชีวิตมันไม่มีข้อจำกัด มีแค่อุปสรรคที่ต้องก้าวผ่าน แค่มีสติรับรู้ มันแปลว่าเรายอมรับการเปลี่ยนแปลงว่าเป็นธรรมชาติที่ต้องเรียนรู้ ต้องพัฒนาตาม นั่นก็เพียงพอแล้ว 

4. ยังมีฝัน
โลกที่เห็นอยู่ทุกวันนี้สร้างโดยคนที่มีความฝันนะ ก่อนที่อะไรๆที่หวังไว้จะเป็นจริง มันมาจากฝันของคนทั้งนั้น ตราบใดยังมีฝัน ตราบนั้นยังมีหวัง

5. ยังให้อภัยเป็น
การยึดกับความโกรธ ขุ่นเคือง ความเจ็บปวด มีแต่จะทำให้กล้ามเนื้อตึง ใจเครียด การให้อภัยจะทำให้รอยยิ้ม ทำให้เสียงหัวเราะของเรากลับคืนมา การให้อภัยเป็นบทเรียนที่สำคัญของคน คนที่ยังให้อภัยเป็น ชีวิตจะสงบสุข ไม่ใช่ให้อภัยแค่คนอื่น แต่ให้อภัยตัวเองด้วย

6. ยังถูกรักอยู่
สิ่งที่สวยงามในชีวิต คือ มีเพื่อน มีครอบครัวที่รักเรา อย่าให้ความรักนี้ผ่านไปโดยไม่ใส่ใจ ดื่มด่ำกับช่วงเวลา ขอบคุณคนที่ยังรักและยังอยู่ในชีวิตเรา

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2559

คิดวันละอย่าง # 52


บอกได้เลยว่า "โชคดีที่มีเพื่อนชีวิต"
เพื่อน พี่ น้องที่รักกันเวลานี้ เป็น เพื่อนชีวิต
มีไม่เยอะ เพราะเป็นคนเรื่องเยอะในการคบคนเป็นเพื่อน
มันสำคัญมากนะ..การคบคนที่เราเรียกได้ว่า "เพื่อน" เนี่ย..
มันมีผลต่อความเจริญและความเสื่อมของชีวิตจิตใจเป็นอันมาก

ถ้าคบใครก็เป็นเพื่อนไปหมด อันนั้นมันแค่มิตรภาพเล็กๆ
เจอกันสวัสดี ทักทาย จบข่าว 

เพื่อนชีวิต มันหมายถึง คนที่อยู่กันด้วยความสุขสวัสดี
รักกัน รู้กัน มีเยื่อใยที่ตัดไม่ตายขาดไม่ขาด
ที่สำคัญ..ความคิดมันต้องไปในแนวเดียวกัน ชอบอะไรประมาณกัน ความเป็นอยู่ การกิน วิถีและความเชื่อใกล้ๆกัน ถึงแม้จะไม่เป๊ะ แต่ไม่ได้เป๋ก็แล้วกัน
พวกที่ไม่ได้อยู่ในอ่าวเดียวกันนี่มันลำบากจะคบนะ
ยิ่งแก่ ยิ่งเซ็ง แค่เจอยังไม่อยากจะเจอ... สติเสียอ่ะนะ

ชีวิตนี้ขอเจอแต่ที่ชอบที่ชอบก็แล้วกัน เอาเสมอๆกัน 

ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงสอนว่า....
สำหรับบุคคลที่เป็นผู้ต่ำต้อยโดยศีล โดยสมาธิ โดยปัญญานั้น
เราไม่ควรสมาคม ไม่ควรคบหา ไม่ควรเข้าใกล้ เว้นแต่เอ็นดู หรืออนุเคราะห์
สำหรับบุคคลที่เป็นผู้เสมอกันโดยศีล โดยสมาธิ โดยปัญญา
เราควรสมาคม ควรคบหา ควรเข้าใกล้
เพราะเมื่อเราทั้งหลายมีศีล สมาธิ หรือปัญญาเสมอกันแล้ว
การสนทนา กิจกรรมต่างๆย่อมเป็นไปเพื่อความผาสุกแก่พวกเรา 

ขอเลือกหน่อย...แก่แล้ว เวลาเหลือน้อย
ขอเมตตาอยู่ห่างๆ kiki emoticon