วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 110


เห็นป้ายนี้แล้วขำ...นึกถึง framing effect ทันที

คือ คนเราบางทีขอร้องกันดีดี ไม่ค่อยเข้าใจ 
สุภาพไปคนก็ว่าหน่อม... 

ถ้าอยู่กับพวกที่คิดได้ คิดเป็นก็แล้วไป...
แต่บางทีเราก็ไม่รู้ว่าจะเจอพวกที่อ่านไม่ออก คิดไม่ได้บ้างไหม
คิดว่าต้องเจอกันบ้างแน่นอน...คนไม่เกรงใจชาวบ้านมันเยอะนะ
การฝึกคิดและพูดในสิ่งที่เรียกว่า framing effect
การเปลี่ยนวิธีการให้ข้อมูลกับคน...
ให้คนตัดสินใจได้โดยขึ้นอยู่กับการกำหนดตัวเลือกของเรา ก็เป็นวิธีที่ทำให้เราอยู่กันได้แบบเข้าใจกันมากขึ้น
...อาจเจ็บแสบหน่อย...แต่ get message แน่นอน !! 
"กรุณาอย่าจอดรถขวางประตูบ้าน"...มันเบาไปใช่ไหน
เจอนี่แลย..."ประตูวิเศษ จอดขวางแล้วยางแบน" 
เป็นการเปลี่ยนการให้ข้อมูลที่ฮาดีนะ...และคิดว่าได้ผลสมใจ ^_^

วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 109


รูปนี้ดีนะ...
อะไรควบคุมไม่ได้...อะไรที่ไม่คุ้มค่า...อย่าไปยุ่งกับมัน

ในโลกนี้มันมีบางสิ่งที่ขึ้นกับเรา 
...และบางอย่างที่เราทำอะไรกับมันไม่ได้
การแยกความต่างระหว่างสองเรื่องนี่สำคัญมากกับ “ความสบายใจ”
ไม่มีอะไรดีเท่ากับการออกห่างจากสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ 
สู้ไปมุ่งในสิ่งที่เราทำได้ดีกว่า...

มันจะเสียเวลา..เสียใจ และเสียอะไรอีกมากที่เราจ้องจะควบคุมสิ่งที่ไม่ได้คุ้มค่าอะไร

แต่ที่จะเด็ดไปกว่านั้น คือ 
การรู้ว่าบางที...สิ่งเดียวที่เราสามารถ “คุม” มันได้ 

....คือ ทัศนคติของเราต่อสิ่งต่างๆในชีวิต

วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

โง่แล้วอยากนอนเตียง


โง่แล้วอยากนอนเตียง

โง่นี่มีสองแบบ คือ 
โง่เพราะไม่รู้...โง่ (ignorance) เพราะขาดความรู้ lack of knowledge กับ 
รู้แล้วยังโง่...โง่ (stupidity) เพราะขาดความสามารถจะรู้ lack of intelligence 

มันต่างกันมากนะ...เอาแค่เรื่องโลกกลมก็ได้ โง่เพราะขาดความรู้จะเชื่อว่าโลกแบนเพราะเห็นมาตั้งแต่เกิดว่ามันแบน จึงเชื่อมาตลอดแบบนั้น แต่พวกโง่ stupid นั้น ต่อให้มีคนมาบอกความจริง มีหลักฐาน มีประจักษ์พยานว่าโลกกลม แต่พวกนี้ก็ยังปฎิเสธแบบรู้อยู่แก่ใจ แต่ดันหาว่าเป็นเรื่องลวงๆได้อีก แบบนี้คือขาดความสามารถจะรู้

แบบ ignorance นี่ค่อยยังชั่วนะ...สอนได้ บอกได้
แบบ stupid นี่ลำบากใจหน่อย...มันอยู่ที่ปัญญาของมันละ 
ในสังคมเรา ถ้ามีพวก stupid มากๆนี่ ไม่ไหวจะเคลียร์ มันเหนื่อยกันอีกนาน คือ จนตายกันไปข้างนึงนั่นแหละ... คือจะไปบอกว่า..นี่เธอ..เธอมันโง่แบบ stupid นี่ก็ลำบาก คือ ถ้าพวกนี้กล้าลุกขึ้นมาปฎิเสธความจริงได้แบบนี้ ไม่ได้มาด้วยซวยโง่เท่านั้น แต่แปลว่ามากับความกล้า หน้าด้านบางอย่าง อาจเป็นว่ามีอำนาจด้วยนะจึงกล้าเผย stupidity แสดงตัวชัดเจนให้คนเห็นโดยไม่หวั่นใจ 

โง่แบบ ignorance แม้จะน่ากลัวเพราะอาจขยันทำอะไรโง่ๆได้ แต่ยังเป็นไปได้ที่จะ “รู้” ขึ้นมาสักวัน แล้วจะทิ้งความโง่ไปได้ แต่ความโง่แบบ stupidity นั้นตรงข้าม
มันคือการยืนยันถึง ‘ตัวตน’ เป็นการบอกถึงความคิด ความเชื่อ การยืนหยัดแบบง่าวๆว่าตัวเองเป็นแบบนี้อย่างสง่าผ่าเผย แล้วเลยเถิดไปถึงการใช้อำนาจที่มีมาเสริมพลังความโง่ มันจึงอยู่ยงคงกระพันกว่าพวก ignorance 

และที่น่ากลัวกว่านั้น ตามที่ Carlo Cipolla ได้เขียนไว้ในเรื่อง The Basic Laws of Human Stupidity คือ พวกนี้จะไม่ได้โง่คนเดียว มันมาเป็นฝูง !!

เพราะการโง่คนเดียวจะไม่ทำให้คนคนหนึ่งแสดงความโง่ออกมาได้
ความโง่ต้องการ ‘พวก’ เพื่อสนับสนุนเสมอ เชื่ออยู่คนเดียวมันไม่หนำ ไม่มีอำนาจอะไร เราจะเห็นพวก stupid นี่เป็นกลุ่มกันเลย โง่แบบไม่ต้องการการจัดการ โง่แบบไม่ต้องการการควบคุมใดใด มันโง่รวมกันเลยทีเดียว 

Cipolla  ว่าไว้...กฎพื้นฐานเรื่องความโง่แบบ stupidity

1. คนเรามักจะประเมินจำนวนคนโง่ในแวดวงที่เราอยู่...น้อยกว่าความเป็นจริงเสมอ
2. ความน่าจะเป็นที่คนคนหนึ่งจะโง่ ไม่เกี่ยวอะไรกับอย่างอื่น คือ เรียนอะไรมาหล่อสวยรวยยศอะไรก็โง่ได้ทั้งนั้น
3. คนโง่ คือ คนที่ก่อความเสียหายหรือสูญเสียให้กับคนอื่น ๆในขณะที่ตัวเองก็ไม่ได้ได้อะไรดิบดีจากการกระทำ
4. คนที่ไม่ได้โง่มักจะประเมินอำนาจในการทำลายล้างของคนโง่ต่ำไปเสมอ และการรับมือกับคนโง่นั้นไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ที่ไหนหรือในสถานการณ์แบบไหนก็ตาม ล้วนแต่เป็นความผิดพลาดร้ายแรงทั้งสิ้น
5. คนโง่ แบบ stupid คือ คนที่อันตรายที่สุด

Cipolla  มีแผนผังที่น่าสนใจ เข้าใจง่ายๆ สรุปได้ คือ
- คนฉลาด intelligent people จะทำประโยชน์กับทั้งตัวเองและคนอื่น
- คนที่ทำให้คนอื่นเสียประโยชน์แต่ตัวเองได้ประโยชน์ คือ โจรชัดๆ(bandits)
  • คนที่ทำให้คนอื่นได้ประโยชน์แต่ตัวเองเสียประโยชน์ คือ คนด้อยโอกาส
  • คนโง่จะเป็นกลุ่มที่ที่ทำให้ทั้งตัวเองและคนอื่นเสียประโยชน์กันถ้วนทั่วทุกตัวคน
อันตรายไหมละ ????
ใครว่าไม่น่ากล้ว....มันโง่น่ากลัวมาก เพราะโง่ stupid มันเปลี่ยนยาก
คนที่รู้อะไรดีดี...แต่ยังเชื่อ ยังยึด ยังถือนี่มันระเบิดมหาประลัยชัดๆ
เพราะมีแต่จะทำลายล้าง...ทั้งตัวเองและคนอื่น
ยิ่งมีตำแหน่ง มีอำนาจ มันจะหนุนความโง่ให้ดำรงอยู่อย่างเหนียวแน่น 

คนเราจะเห็นความโง่ในตัวเองได้....ต้องอาศัยความฉลาดระดับหนึ่ง
ส่วนพวกเห็นได้เฉพาะความฉลาดในตัวเองเพียงอย่างเดียว 
...ก็ต้องอาศัยความโง่ในอีกระดับหนึ่งด้วยเช่นกัน 
คนเราก็มีหน้ากากโง่และฉลาดสลับกันไป มันจึงเห็นตัวเองได้ยากเหมือนกันนะ


เอาเป็นว่า...เรื่องง่ายๆ..อย่าโง่แบบ stupid !!