วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2562

คิดวันละอย่าง # 220

หา(สุขา)ใจให้เจอ..ก็เป็นสุข

คนเราอยากปลดทุกข์ก็ต้องหาห้องสุขา
เข้าไปแล้ว...ได้ปลดทุกข์..ผล คือ โล่ง สบาย
จึงคิดว่าความทุกข์อะไรก็ตาม มันปลดได้
เพียงแต่เราต้องมี “สุขาใจ” ของตัวเอง
ที่...ไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
ที่...สามารถปล่อยวางสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
ที่...ยังพอรักษาใจไม่ให้ขึ้นลงตามอารมณ์ 
ใช้ไปแล้ว เสร็จกิจก็สงบได้ ใจสบาย 

ดูๆไปก็เหมือนปลดทุกข์ชั่วคราว
แต่ก็ยังดีนะ..มีที่ปลดทุกข์อยู่บ้าง
เก็บไว้จะเหมือนขี้ขึ้นหัว ปวดอยู่ทั้งวัน

การดิ้นรนหาสิ่งที่คิดว่าใช่ ชอบ มุ่งทำไป
มันคล้ายกับปลดทุกข์...มันชั่วคราว
มันแค่คลายทุกข์ เดี๋ยวมันมาใหม่
เหมือนกับหาทางหนีทุกข์กันไปเป็นครั้งๆวันๆ

มันคงต้องสร้างห้องสุขาใจให้แข็งแรง
แบบเอาออกได้เยอะ 
จะเอาออกได้แค่ไหน คงต้องหันกลับข้างใน
ใจข้างใน..มันร้อนรน ดิ้นอะไรอยู่ 
เฮยยย ปัจจุบันก็ดีอยู่นะ หายใจตอนนี้ก็ดีอยู่นะ
กังวลอะไร แม้เจ็บป่วย มันก็เป็นของมันอย่างนั้น
แม้ทุกข์ใจเรื่องอื่น มันก็มีเหตุที่ทำให้ทุกข์ 

ไม่ทำ..อีกหน่อยจะแย่... อีกหน่อย คือ อนาคต
เมื่อก่อน..ไม่เป็นแบบนี้... เมื่อก่อน มันอดีต
ถ้าวนแบบนี้...ไม่มีสุขาใจให้ปลด 

ขอจบด้วยเรื่องเล่าของจวงจื๊อ
มีชายคนหนึ่งรำคาญเงาของตัวเองมาก
อีกทั้งยังทนรอยเท้าของตัวเองไม่ได้
จึงพยายามวิ่งหนีจากทั้งสองสิ่งนี้ 
แต่ไม่ว่าจะวิ่งไปไหนเงาและรอยเท้าก็ยังติดตามไป
เลยคิดว่าวิ่งเร็วไม่พอจึงเร่งฝีเท้าไม่ยอมหยุด
วิ่งแล้ววิ่งเล่า
ในที่สุดก็หมดแรงล้มลงและถึงแก่ความตาย
จวงจื๊อสรุปให้ว่า
“หารู้ไม่ว่าถ้าเพียงแต่เเข้าร่มเงาก็จะหายไป

และถ้าเขานั่งนิ่งๆก็จะไม่มีรอยเท้าเลย” 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น