วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 147


บางที...การหยุดก็ดีเหมือนกัน
ปัจจุบันทุกอย่างมันพุ่งพรวดราวกับจรวด เร็วจนตาพร่า คว้าจับเข้าใจอะไรได้ไม่ชัดเจน แต่ก็ยังมีคว้าอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่
ภาพ เสียงอึงคะนึงตรงหน้า...มากมาย หลากหลาย
หยุดและหันกลับมาหาตัวเองหน่อยน่าจะดี 
หยุดไม่เป็น...ไม่เห็นชีวิต
หยุดเป็น...เห็นความจริง
การเรียนรู้ที่จะหยุดเสียบ้างเป็นเรื่องสำคัญ
การหยุด ไม่ใช่ การนิ่งแบบไม่ทำมาหาอะไร
มันเป็นการหยุดในจังหวะที่ควรหยุด
...หยุดเพื่อหาความหมายใหม่ในชีวิต
...หยุดเพื่อชื่นชมความงามของชีวิต
...หยุดเพื่อหาหนทางเดินของชีวิต
……ที่สมดุลมากขึ้น....
มีคนบอกว่า...การหยุดของนักดนตรี คือ การรู้จักตีความเพลง
และ การหยุดของนักใช้ชีวิต คือ การรู้จักตีความชีวิต (คมเลยนะ)
นักดนตรีเล่นไปไม่หยุดเลยนี่ ไม่ได้นะ
นักใช้ชีวิตก็เช่นกัน มันต้องมีหยุดฟังสัญญาณชีวิตกันบ้าง
โดยเฉพาะเมื่ออายุเริ่มมาก...มันมีสัญญาณชีพที่เต้นผิดเต้นพลาดอยู่แน่นอน ถ้าไม่หยุดฟังดีดี มันจะไม่ได้ตายดี
แต่บางอย่างมันเป็นสัญญาณหลอกๆ อย่าไปเชื่อ...
ตัวอย่าง คือ เรากินยาอยู่ เราก็สบายดี อย่าคิดว่า “ยังสบายดี”
มันไม่เคยจะสบายดี หลังจากสัญญาณมันดังขึ้น
สังขารยุบมั่งพองมั่ง ก็เป็นสัญญาณที่บางทีหลอกตัวเองว่าดี
มันดียังไง..มันต้องมีดีอย่างเสียอย่างเสมอ
แต่เรามักเข้าข้างที่มันดี ไม่เคยจะมองที่มันเสีย
...ทั้งที่เสียอาจมากกว่าดี...
การหยุด...จะทำให้พิจารณาสังขารและใจได้ดีขึ้น
และเราจะจัดการตัวเองได้สัดส่วนลงตัว...กับทุกเรื่อง
ไม่ได้ยากอะไร...แค่ “หยุด”
ร้องเพลงตามไป...หยุด หยุดชีวิต หยุดกับตรงนี้...แม้ว่ามันจะดีสักแค่ไหน...หยุด หยุดความรักทั้งหัวใจ หยุดไว้ที่ใจตัวเอง...(ฮั่น)

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 146


สุขและทุกข์...วนเวียน
ความสุข คือ การโอบกอดเอาสรรพสิ่งเข้าสู่จิตใจ 
โอบกอดด้วยความรัก ความเข้าใจ
โอบกอดด้วยสติที่มองเห็นความจริงของทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ความสุข คือ การมองสรรพสิ่งเป็นการเปลี่ยนผ่าน
ดังใบไม้ที่ต้องร่วงหล่นผลัดใบและแห้งเหี่ยว
ดังการไหลล่วงไปของเวลา
ความทุกข์ คือ การสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองตลอด
ความทุกข์ คือ การมองไม่เห็นว่าโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
ความทุกข์ คือ การไม่โอบกอดสรรพสิ่งด้วยความรัก ความเข้าใจ
มะ..ขอกอดที
ความสุขไม่ใช่ภาวะปลื้มปิติของการ ‘ได้’ อะไรสักอย่าง

วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 145


เห็นข้อความนี้เมื่อปีที่แล้ว ยังชอบอยู่
ไม่ใช่ทุกวันที่เป็นวันที่ดี...แต่เราต้องอยู่ให้ "ดี"
เป็นคนนี่เรื่องทุกข์ใจมันเข้ามาเยี่ยมเรื่อยๆนะ ไม่เชิญก็มา ไม่เรื่องอะไรก็อะไรนี่แหละ ดีหน่อยที่ไม่มาทุกวัน มาเป็นครั้งคราวก็พอได้นะ พอทำใจให้ดี มีความสุขได้กันบ้าง และเรื่องอยู่ดีมีสุขมันเป็น person’s state of mind เป็นเรื่องของใครของมัน บางทีเราก็ติดยึดของเรา โดยคิดว่าคนอื่นจะมีความสุขแบบเรา มันไม่ใช่เพราะทุกคนล้วนมี "ทาง" ของตัวเองที่จะทำให้แฮบปี้ ซึ่งมันต้องหาให้เจอแล้วจะ...อยู่ดีดี 
ไม่ใช่คนที่เรารักทุกคนจะรักเรา..แต่เราต้องรักให้เป็น
มันเป็นเรื่องจริงที่ต้องทำใจด้วยเหมือนกัน อันนี้ต้องเมตตามหานิยมมาก คือ ไม่ต้องนึกถึงการได้รับ การให้ การเสียเปรียบ หรือได้เปรียบ คือ ไม่คิดเยอะ ปล่อยไปตามที่มันเป็น หายใจลึกๆเข้าไว้ เพราะว่า...เมื่อรักแล้วและรักแบบรักจริง ไม่คาดหวังให้ปวดหัว เราก็ยังคงรักต่อไปได้ เอาแค่รู้สึกสบายใจ แปลว่ารักเป็น
ไม่ใช่ทุกคนที่พูดความจริง...แต่เราต้องไม่โกหก
จะโกหก ไม่โกหก มันก็เรื่องของคนอื่นนะ ไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องของเรา คือ ไม่โกหก ท่องไว้ เพราะโกหกแล้วมันจะร้อนใจ อึดอัด ที่แน่ๆเลย ผิดศีลข้อ 4 เป็นบาป เดี๋ยวลงนรกฮะ 
ไม่ใช่ทุกข้อตกลงที่เจอจะยุติธรรมเสมอไป...แต่เราต้องเล่นในเกม
ความมีศักดิ์ศรีนั้น ไม่ใช่ใครที่ไหนก็เห็นความสำคัญ แต่ต้องไม่ใช่เรา เราต้องมีความกล้าหาญชาญจริยธรรมใจเลิศล้ำย้ำสู้...อยู่...ไม่ถอย เรายืดหยุ่นได้แต่มันต้องอยู่ในเกม นอกเกมมันจะเหนื่อยกายเหนื่อยใจ จะหาความยุติธรรมในทุกเรื่องคงต้องไปหาโลกหน้า โลกนี้ต้องทำใจไปก่อนนะ

คิดวันละอย่าง # 144


สำคัญ คือ คือความรักและความเมตตา
บางทีเรา "ลืม" มองพื้นฐาน “ความเป็นคน” ที่เรามีร่วมกัน...
เรื่องกาย...มันจึงเกิดการเสียหาย เจ็บตัว
เรื่องวาจา..มันจึงเกิดการผิดคำพูด
เรื่องใจ.....มันจึงเกิดการโกงใจ
เกิดความเดือดร้อนที่เป็นปัญหายุ่งยากตามมา
คนยึดเอา “ตัว” เกินไป เห็นแก่ “ตัว” ทั้งที่ไม่มี “ตัว”
มองแต่ในมุมของตัว = ไร้ความรักและเมตตาคนอื่น
จึงเกิดอาการ “มีของ” คือ ของตัวดีกว่าของคนอื่น สูญเสียไปไม่ได้ 
ถ้าเราคิดอย่างจริงจัง ใคร่ครวญดีดี
มันไม่มีอะไรที่เป็น “นิจจัง” ทุกสิ่งทุกอย่างเป็น “อนิจจัง”
ความยั่งยืนไม่มีในโลก
แต่บังเอิญกระแสของกิเลสมันแรงเหลือเกิน..มันมองไม่เห็น
ถ้ารู้จัก “อนิจจัง” เราจะรักจริง !!
เราจะสามารถเมตตาได้จริง ไม่เฟคไปวันๆ เพราะว่า...
เราจะปรับความคิด การเป็นอยู่คือของเราให้เข้ากับทุกสภาพได้
จึงไม่หงุดหงิดเมื่อมีการ “เปลี่ยนแปลง”
จึงรักษาใจให้ยังมีความรัก เมตตาได้
ถ้าไม่รู้ทัน “อนิจจัง” เราจะรักและเมตตาไม่เป็น
เราจะยึด “สิ่งไม่ยั่งยืน” อยู่นั่นแหละ
จะรู้สึกประสาทกิน จะกลัวสูญเสีย
จนบางทีตัดสินทำอะไรไป กลายเป็นไร้ซึ่งเมตตาต่อคนอื่น
ยึดตัวเอง เกาะติด “สิ่งของ” จนลืมไปว่าเราต้อง “ละ” เป็น 
อะไรมันก็ “อนิจจัง” ทั้งนั้น...อยู่ในโลกนี้...มีได้ มันต้องมีเสีย 
ทำไมเราต้องเป็นทาสสิ่งที่ก็รู้ว่า “ไม่แน่นอน”
...จิตอ่อนไปไหม...
อย่าเริ่มต้นที่ความเชื่อ...จนเป็นความงมงาย
..มันไม่หลุด ไม่มีอิสระ....
เมื่อโดน “รัด” อยู่แบบนั้น...มันรักใคร เมตตาใครไม่เป็น...
อยู่ในโลก..ต้องรู้ว่าโลกในภาษาบาลีแปลว่าเสื่อม ขอย้ำยั่งยืนไม่มี !!

วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 143

ภาวะจิตตก
“จิตตก” สำหรับทางการหมอคงเป็นคำที่ใช้บรรยายอาการของคนที่ประสบกับความเครียด ความกดดัน เป็นระยะเวลายาวนาน หรือ อาจไม่นานแต่ระดับความรุนแรงมันสูง แต่สำหรับคนปกติธรรมดา “จิตตก” นี่คงประมาณว่า “จิตตกใจ” คือ เวลาที่มีอะไรไม่เข้าท่ามากระทบจิตใจเรา แล้วมันช็อคแพร็บ เกิดความไม่สบายใจและไม่สามารถจัดการได้ มีเครียด มีกดดัน หรือ มีวิตกจริตจนกังวลไปต่างๆนานา อันนี้เกิดกันได้ทุกคน 
เช้านี้เกิดอาการจิตตก(ใจ) ช็อคไปแพร็บนึง เพราะลืมไปขึ้นเครื่องบินตามเวลา สติสตังค์หายหมด ร่างมันร้อนๆตึงๆ ใจก็สั่นๆงงๆและวูบๆ หายใจไม่อิ่มเลย พยายามจะรู้ตัวนะ แต่มันไม่ทัน มันเครียดวูบวาบไปแล้ว เพราะความเกรงว่าสิ่งที่ไม่ดีจะเกิดขึ้น คือไปไม่ทันทำงานแล้วจะมีความเสียหายเกิดขึ้น คิดว่ามันยุ่งแน่ ความวิตกจริตบังเกิดเลยทีเดียว ย้อนนึกเวลาที่รู้สึกแบบนั้นได้ประมาณนาทีนึง (เหมือนนานมากกก) แล้วก็รีบจัดการจองตั๋วใหม่ มือสั่นกันเลย พอได้ตั๋วยังไม่หายนะ โล่งไปแป๊บ แล้วก็ติดต่อแจ้งคนที่จะมารับที่สนามบิน และ..เอ้ายังเวิ่นเว้อต่อไปอีก 5 นาที หมาเหมอกระจาย เลยหายใจลึกๆ เอาวะ จะไปจิตตกใจอะไรนักหนา มันจบไปแล้ว ทีนี้ได้ตั้งหน้าเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า แล้วก็มานั่งชิวทบทวน เขียนนี่แหละ 
ได้วิธีแก้จิตตกใจมาบ้าง..จึงอยากเล่าสู่กันฟัง
1. ต้องเชื่อก่อนว่า...มันต้องผ่านไปได้
2. สติมา สติมา ไม่ฟูมฟายตีอกชกหัวตัวเอง จัดลำดับความสำคัญ เอาทีละอย่างให้มันจบ
3. เริ่มท้าทายกับปัญหาละทีนี้ เอาดิ เป็นไงเป็นกัน มันเกิดขึ้นมาแล้ว ดีจะจำไว้เป็นบทเรียน อะไรจะเกิดต่อจากนี้เราไม่เป็นไรแล้ว
4. ผ่อนคลายตัวเอง จะอ่าน จะเขียน จะกินก็เบี่ยงเบนไป ทำในสิ่งที่ตัวเองสบายใจ (ข้าพเจ้าเลือกหาอะไรกินไป แล้วเขียนไปด้วย) วิตกกังวลจะค่อยๆหายไป ถ้ายังมีค้าง...ก็หายใจลึกๆเอาอ็อกซิเจนเข้าไปล้างซะ 
อือ...ดีเหมือนกัน ได้รู้เท่าทันความคิดและจิตใจของตัวเองได้หน่อย มันดีนะ มันรักษาจิตใจเราให้มั่นคงได้ดีขึ้นจริง อันนี้รู้เลยว่าถ้าปล่อยไว้มีบ้าได้ อาการอาจจะรุนแรงถึงขั้นไปหาทางการหมอกันเลยทีเดียว และมันจะมีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตตามมาอีกมากมายแน่นอน

วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 142


รักเราจะยืนยาวแค่ไหน..อยู่ที่..
Fun ต้อง “ฟัน” เพราะเราม่วนได้เมื่อเราสบายใจที่สุด มันเป็นสัญญาณที่สำคัญที่สุดของมิตรภาพ ไผ๋บ่ม่วนฮาม่วนนี่มันบ่ได้นะ 55 การม่วนมันต้องม่วน สนุก ฟันกันทั่วถึง 
Support กัน เราล้วนมีช่วงที่ต้องผ่านความทุกข์ท้อทรมาน ต่างคนต่างมีปัญหาถาโถม มิตรภาพยืนยงได้ด้วยการดูแลกัน support ทั้งกายและใจ บางทีเราอาจไม่เห็นด้วย แต่มันก็ต้องดูแลใจกันไม่ใช่หรือ ความชื่นมื่นมั่นคงในมิตรภาพเกิดจากตรงนี้ด้วย
Hug ฮักกัน การกอดนี่มันไม่ต้องพูดอะไรเลยนะ กอดเดียวบอกอะไรได้มากเลย ยิ่งกอดกันความสัมพันธ์เหนียวแน่น...มะ 
Respect เคารพกัน ไม่ต้องบูชาเช้าเย็น แค่ “ให้ค่า” กับความคิดคนอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ไม่เคารพกันสัมพันธ์จะพังครืน มีแค้นเคืองได้
แค่นี้ก็พอละนะ..รักเรายืนยง 

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

คิดวันละอย่าง # 141

เรามีทางเลือก...หรือ ???
แต่ละวันที่ผ่านไปในชีวิต เราคิดว่าเรามีเสรีภาพในการที่จะเลือก แต่บางทีในความเป็นจริงเรามีเสรีภาพในการที่จะเลือกเฉพาะตัวเลือกที่มีคนกำหนดไว้ให้ และเราก็ไม่ควรจะหลอกตัวเองว่าเรามีเสรีภาพในการเลือกมากน้อยแค่ไหน 
บางครั้งเราอาจจะหลอกตัวเองว่าเรามีเหตุและผลในการเลือก แต่มันเป็น choice architect !! การตัดสินใจของเรามันมักจะขึ้นอยู่กับการกำหนดตัวเลือก framing effect ที่เนียนๆ นี่แหละ 
ภาพนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นของอิทธิพลของการกำหนดตัวเลือกเพื่อโน้มน้าวการตัดสินใจ (ซึ่งชอบใจอยู่นะ)

วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

การจัดการที่ดี = การมีมารยาทที่เหมาะสม

การปฏิบัติ หรือการแสดงวาจา ภาษา ท่าทาง และพฤติกรรมต่าง ๆ ออกมาให้ปรากฏแก่สายตาของคนอื่น เราเรียกว่า มารยาท เป็นคุณลักษณะประจําตัวของคน เช่น การมีสัมมาคารวะ ความสุภาพ อ่อนน้อม ความมีวินัย เป็นต้น แค่ความสามารถทางการบริหารจัดการไม่เรียกว่าการจัดการที่ดี เพราะการจัดการที่ดี..ต้องมีมารยาทด้วย มารยาทเป็นการแสดงความเคารพให้เกียรติกัน คนปัจจุบันที่เรียกตนเองว่า คนยุคใหม่ และชอบทําอะไรแบบง่าย ๆ ถือเอาความสะดวกสบายเป็นหลัก พฤติกรรมท่ีแสดงออกมาในบางครั้งจึงกลายเป็นคนไร้มารยาทไปได้โดยง่าย
คือว่า...รวยอย่างเดียวไม่ได้ บริหารธุรกิจแล้วร่ำรวย ไม่ได้แปลว่ามีการจัดการที่ดี เพราะการจัดการที่ดีและมีมารยาทเท่านั้น จะทำให้เกิดการยอมรับนับถือ เป็นคนมีเกียรติ ไม่ใช่มีแต่ตำแหน่ง มีแต่เงิน !! 
มารยาทนั้นไม่ได้เป็นเรื่องยาก
1. เกรงใจไม่ถือวิสาสะ
เบื้องต้นแค่รู้จักเกรงใจไม่ถือวิสาสะก็ดีแล้ว เกรงใจ คือ การรู้จักระวังความรู้สึกของคนอื่นในเรื่องต่างๆ เช่น การจะขอความช่วยเหลือไม่ควรกระหน่ำขอ การจะไปพบการจะโทรศัพท์ไปหาต้องดูเวลา การไม่ถือวิสาสะแปลว่าต้องขออนุญาต...แม้แต่คนเป็นลูกน้อง
2. มารยาทในการพูด
การมีมารยาทในการพูด ไม่ต้องถึงขนาดเจ้าคะ เจ้าขา ครับผมตลอดเวลา อันนั้นเอียน too nice แค่ไม่เพ้อเจ้อ คือ ออกนอกลู่นอกทางนอกเรื่องที่กําลังเป็นประเด็นสําคัญ หรือสั่งพรํ่าเพรื่อ ตอกย้ำเพราะกลัวคนจะลืม พูดบ่อย ๆ จะถือว่าเป็นการเสียมารยาทเลยนะ อีกอย่างที่เจอบ่อยในการพูด ถึงแม้จะเป็นนอกเวลางานของกลุ่มผู้บริหารชาย คือ การพูดตลกคะนองลามก แสดงความอยากแมนด้วยการพาดพิงผู้หญิงเหมือนเป็นเครื่องเล่น อันนี้ถือว่าไร้เกียรติ ไร้มารยาท ไม่แมน กรุณาให้เกียรติเพศแม่ของตัวเอง
3. ระมัดระวังตัวและอ่อนน้อมถ่อมตน
มารยาทเป็นเรื่องของการระมัดระวังตัวและอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เหลียวหน้าเหลียวหลัง เลิกลั่ก หรือทําตัวเป็นจุดเด่น โวยวาย กรี๊ดกร๊าดเหมือนคนมีปัญหา และไม่แสดงอาการหยิ่ง จองหองให้น่ารำคาญ
4. ตรงเวลา ตั้งใจ ไม่แซงคิว
การมาสาย ใช้เวลายืดเยื้อ คือ ความไม่มีมารยาท ไม่ต้องอ้างอย่างอื่น ทุกอย่างถ้าวางแผนล่วงหน้า มีการเผื่อ จะรักษาเวลาได้ ถ้าทำไม่ได้ คือ ไม่ใส่ใจเพียงพอ การแสดงความสนใจ ตั้งใจเป็นมารยาทด้วย ที่เห็นบ่อย คือ ใช้ความเป็นผู้บริหาร “แซง” ชาวบ้านไปทุกเรื่อง พูดแทรก แซงคิว ขอก่อน กินก่อน ได้ก่อน แบบนี้ไม่น่ารัก ไม่มีน้ำใจ
คงจะมีอีกเยอะ เอาแค่นี้ให้ได้ก็งามแล้ว ไม่ต้องถึงขนาดเป๊ะแบบมารยาทในการรับประทานอาหารแบบฝรั่ง อันนั้นไปหัดเอาจากแถวโรงแรมได้ แต่ที่เกริ่นๆไปนั้นมันเป็นเรื่องที่ต้องติดตัว ติดให้เป็นคุณลักษณะประจําตัวไป 
จัดการเก่งแค่ไหน มารยาทไม่ดี ราศีบารมีไม่เกิด !!

คิดวันละอย่าง # 140


ชีวิตมีแต่เรื่อง...
ดีใจ
ได้ใจ
สุขใจ
ปลื้มใจ
สบายใจ
และก็มี...
ทุกข์ใจ
เสียใจ
ท้อใจ
หมด(กำลัง)ใจ
กลุ้มใจ
สรุปได้ว่า..มันอยู่ที่ "ใจ"