วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เรื่องเชี่ยๆ

Robert I. Sutton สอนด้านการจัดการที่คณะ Management Science and Engineering มหาวิทยาลัย Stanford เขียนหนังสือเรื่อง Asshole Survival Guide ประมาณการเอาตัวรอดจากคนเชี่ย เฮงซวย ห่วยแตก คือ คนเรานี่ที่จิตตกอาจไม่ใช่เพราะเราอ่อนแอก็แพ้ไป แต่เป็นเพราะเราอยู่ท่ามกลางคนเชี่ยๆ เฮงซวย ห่วยแตกนี่แหละ ฝรั่งเรียกพวก Jerk หรือ พวก Toxic บ้านเราก็คงเจอกันบ้าง ไม่มากก็น้อย หรือแม้แต่ตัวเราเองก็ได้สิทธิ์นั้นในการทำตัวเชี่ยด้วย 
Sutton ว่าไว้เกี่ยวกับคนเชี่ย คือ คนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกไร้ค่า กดดัน หมดแรงพลังใจ ราวกับเราเป็นธุลีดิน feel like dirt และยังเล่นใหญ่แยกออกได้ 2 ประเภท คือ 
1 เชี่ยเป็นครั้งๆ คือ เชี่ยชั่วคราว อันนี้เป็นกันได้ทุกคน โดยเฉพาะเวลาไม่สบอารมณ์ เชี่ยได้เลย
2 เชี่ยแบบได้โล่ห์ (certified asshole) คือ เชี่ยสม่ำเสมอ คงเส้นคงวา เชี่ยแบบโรคจิต มีความสุขกับการทำให้คนเจ็บปวด อารมณ์เสีย หงุดหงิด 
Sutton ว่า คนเชี่ย เฮงซวย ห่วยแตกจะไม่รู้สึกความเชี่ย เฮงซวย ห่วยแตกของตัวเอง ต้องให้คนอื่นบอก ประมาณว่าคนเรามักคิดว่าคนอื่นเชี่ย แต่ตัวเอง "มีเหตุผล" พอที่จะไม่เชี่ย ก็หาเหตุผลมารองรับไปว่ามันสาสมมากแล้วที่โดน 
วิธีการสังเกตุว่าคนๆหนึ่งจะเชี่ย เฮงซวย ห่วยแตกได้นั้น ดูที่ถ้าคุยกัน คบกันแล้ว มีคนรู้สึกแย่ นั่นคือ เชี่ยไป 50% แล้วนะ และถ้าสงสัยว่าคนนี้มันเชี่ยจริงไหมนี่ ดูว่ามันชอบไปตอกย้ำ กดดัน เสียดแทง จิกคนที่สู้ไม่ได้ทุกครั้งหรือเปล่า แต่กับคนที่สายแข็งมันจะระทวย ไม่อือหือเลยนี่แปลได้ว่า เชี่ยมาก เช่น กับเพื่อนที่ด้อยกว่านี่มุ่งพุ่งเป้าทำเชี่ยใส่ตลอด แต่กับเพื่อนที่มียศถาบรรดาศักดิ์กลับทำตัวดี เป็นต้น Sutton ว่าถ้าถูกทั้งหมดนี่ เชื่อได้ว่าเชี่ยเต็ม 100 เอากันชัดๆ คือ ดูถูกเหยียดหยาม ก้าวล้ำพื้นที่ส่วนตัว จับต้องร่างกายแบบไม่มีเหตุ ขู่คุกคามทุกทาง ทำตลกเสียดสีจิกกัด พูดจาหมาไม่แดก เม้นแซะเม้นให้อับอาย ขัดคอ ตีสองหน้า ไม่มีมารยาททำคนอื่นไร้ตัวตน นี่เชี่ยร้อยๆ
ที่จริงคิดไปคิดมา การที่คนเชี่ย เฮงซวย ห่วยแตกนี่มันเป็นเรื่องอำนาจล้วน คือ อยากเหนือ และที่หนักข้อคือใช้อำนาจทำให้คนด้อยต้อยต่ำ เป็นทุกข์ไปตลอด Sutton ให้ข้อแนะนำในการอยู่รอดอยู่ร่วมกับคนเชี่ย เฮงซวย ห่วยแตก ดังนี้
➡️รู้ตัวให้เร็ว เผ่นได้ให้รีบเผ่น
➡️หนีไม่ได้ให้รักษาระยะห่างที่ประมาณ 7.6 เมตร เพื่อไม่ให้ติดเชื้อเชี่ย (มีงานวิจัยว่ามันติดต่อกันได้ Sutton ว่าความเชี่ยนี่ส่งผ่านกันได้ เช่น เจอคนเชี่ยๆ แล้วเราก็หงุดหงิดจนอาจทำตัวเชี่ยกับคนอื่นๆได้)
➡️ให้ลดการติดต่อ คือพวกเชี่ยนี่มีความสุขเวลาได้เห็นคนเป็นเดือดร้อน
➡️อย่าทำตัวเด่น (เกินหน้าเชี่ย) เพราะจะเป็นเป้าหมายที่โดนพุ่งเข้าชน
➡️ทำใจไป พวกเชี่ยมันไม่ได้อยู่กับเราทั้งชีวิต เดี๋ยวมันก็ไปหาเหยื่ออื่น
➡️อันนี้ไม่ค่อยเห็นด้วย แต่อาจได้ผลดี Sutton ว่า ลอง “เลีย” “อวย” คนเชี่ยไปก็ได้ เพราะพวกเชี่ยชอบให้คนมาชื่นชมตัวเอง พอรู้สึกว่าใครเป็นพวก มันจะเลิกเชี่ย
➡️สู้ซิฮะ ลุยกลับไป ใช้ group force ไป ให้รู้สึกเสียบ้าง
➡️อยู่ใกล้เชี่ย อย่าวู่วาม ต้องมีหลักฐานมัดให้แน่น ถ้าไม่พร้อมนอกจากเจ็บใจ อาจมีเจ็บตัว

เรื่องเชี่ยๆนี่คนทางธุรกิจไม่ค่อยได้สอนกัน แต่มันมีอยู่จริงทุกที่ ถ้าในที่ทำงานเรามีอำนาจก็จัดการคนเชี่ยได้ไม่ยาก แค่ delete มันออกไป ที่ยากคือความสัมพันธ์ส่วนตัวกับครอบครัว เพื่อนฝูงนี่แหละ มันตัดไม่ได้ขายไม่ขาด จัดการยากหน่อยนะ
Sutton ว่า อย่าเรียกคนอื่นว่าเชี่ยให้เร็วเกินไปนัก แต่ให้สงสัยว่าตัวเองเชี่ยไว้ก่อนไหม คือ อย่าด่วนสรุปว่าคนอื่นเชี่ย เฮงซวย ห่วยแตก และอย่าเข้าข้างว่าตัวเองไม่เเชี่ย ไม่เฮงซวย ไม่ห่วยแตก ความเชี่ยที่มีอยู่อาจลดลงได้ อยู่กันดีดีอย่างสบายใจได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น