วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ความ "พอเพียง" โปรดกลับมา


ที่ผ่านมาเราการใช้แนวทางการพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญทันสมัยทางวัตถุสุดโต่ง มันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่สังคมไทยอย่างมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและสิ่งแวดล้อม ในเรื่องที่จับต้องได้เห็นตัวเลข เช่น อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเจริญทางวัตถุ สาธารณูปโภคต่างๆ ระบบสื่อสารที่ทันสมัยมันอาจดูดี แต่ในทางเรื่องจับต้องไม่ได้ เช่น ค่านิยม ทัศนคติมันส่งผลที่แย่นานานัปการ เรามีความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ เราเจอธรรมแปลงกาย เราอ่อนแอ เราไม่ปลอดภัย เราร้องขอในสิ่งที่เราเองไม่ได้เข้าใจ แต่ที่แย่มากมากที่สุด คือ เราพึ่งพาตัวเองไม่ได้ 

ความที่เราว่าเป็นเรื่อง "เจริญ" นั้น จริงๆแล้วมัน "ติดลบ" ไปแล้ว การรวมกลุ่มกันตามประเพณีเพื่อการจัดการวิถีชีวิตที่เคยมีอยู่แต่เดิมสลายลง ภูมิความรู้ที่เคยใช้แก้ปัญหาและสั่งสมปรับเปลี่ยนกันมาถูกลืมเลือนและเริ่ม สูญหายไป ที่สำคัญความพอเพียงในการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ทำให้คนไทยสามารถพึ่งตนเอง และดำเนินชีวิตไปได้อย่างมีศักดิ์ศรีภายใต้อำนาจและความมีอิสระในการกำหนด ชะตาชีวิตของตนเอง ความสามารถในการควบคุมและจัดการเพื่อให้ตนเองได้รับการสนองตอบต่อความต้อง การต่างๆ รวมทั้งความสามารถในการจัดการปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นศักยภาพพื้นฐานที่คนไทยและสังคมไทยเคยมีอยู่แต่เดิม ถูกเขย่า ถูกโยกคลอนและกำลังจะถูกถอนราก ด้วยการพัฒนาประเทศที่เน้นความมั่งคั่ง...ที่จับต้องได้ 

โปรดกลับมาหาพระราชดำริของในหลวงของเรา...ว่าด้วยเศรษฐกิจพอเพียงที่พระราชทานมานานกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนรากฐานของวัฒนธรรมไทย เป็นแนวทางการพัฒนาที่ตั้งบนพื้นฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเอง ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต 

คนไทยจะต้องมี “สติ ปัญญา และความเพียร” จึงจะนำไปสู่ “ความสุข” ในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง !!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น