วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สัญญาณความเห็นแก่ตัว

สัญญาณความเห็นแก่ตัว !!
1. คนอื่นเป็นฝ่ายยอมตลอด
อันนี้เป็นสัญญาณแรก คือ การให้คนอื่นเป็นฝ่ายยอมตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรหรือคิดอะไร ก็มักจะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลและคนอื่นต้องเห็นด้วยกับสิ่งที่คิดที่ทำทุกครั้ง แม้บางครั้งคนอื่นอาจจะไม่ชอบสิ่งที่หยิบยื่นให้ก็ตาม การที่คนยอมนั้นไม่ได้แปลว่ากลัว แต่มันเป็นการรักษามิตรภาพ อย่าลืมว่า "แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร" แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ความหมายนี้
2. ตัวเองก้าวก่ายเรื่องต่างๆได้ คนอื่นอย่าแหยม
ไม่ชอบให้ใครมาพูดหรือคิดเห็นต่าง ยามคนอื่นพูดหรือเตือน กลับมองว่าเป็นการก้าวก่าย อารมณ์เสีย ในขณะที่ตัวเองสามารถวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นได้ทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่
3. อยากให้คนอื่นเป็นอย่างที่ต้องการ
เคยถามความต้องการของคนอื่นบ้างหรือเปล่า ต้องกินเหมือนกัน ต้องไปด้วยกัน ต้องไลฟ์สไตล์แบบเดียวกัน อันนี้ไม่ใช่แค่เห็นแก่ตัวเท่านั้น แต่ทำร้ายจิตใจคนอื่นด้วย เพราะมันแสดงถึงว่าไม่เคยพอใจในสิ่งที่คนอื่นมีหรือสิ่งที่คนอื่นเป็น แต่กลับอยากให้เป็นอย่างที่ต้องการไปเสียทุกอย่าง
4. เอาแต่ใจตัวเอง
ไม่ว่าจะถกเถียง โต้แย้ง หรือกำลังหาคำตอบเรื่องใดอยู่ก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดแล้วจะผู้ที่เป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ในเมื่อมีคำตอบ มีปักธงอยู่ในใจแล้ว จะขอความคิดเห็นทำไม คือ แบบนี้ไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่ต้องการคนที่มาสนับสนุนความคิดเท่านั้นแหละ อย่าถามให้เหนื่อยเพราะสุดท้ายแล้วก็เลือกสิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่ดี
5. ไม่เคยขอโทษ
เป็นฝ่ายผิดแต่กลับมองว่าตัวเองถูก หรือ รู้ว่าตัวเองผิดแต่ไม่เคยขอโทษ และที่แย่กว่านั้นคือขอโทษแบบไม่จริงใจ ขอโทษแบบขอไปที
6. หงุดหงิดเมื่อไม่ได้ดั่งใจ
อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ หงุดหงิดเสมอ หากสิ่งที่คาดหวังไม่ได้ดั่งใจ ที่หนักไปไปกว่านั้น ไม่ว่าจะหงุดหงิดมาจากไหนก็ตาม มักจะมาระบายหรือหงุดหงิดใส่คนอื่นอีกต่างหาก เช่น การพูดประชดประชัน ตวาด เสียงดัง หรือใครไม่อินไปด้วยกับปัญหาที่เจอหรือสิ่งที่เล่าให้ฟัง ก็มักจะทำสิ่งนั้นเพื่อให้คนอื่นได้รู้สึกแบบเดียวกัน อาจตามมาด้วยคำพูดประมาณว่า "เข้าใจหรือยังล่ะ" หรือ “รู้สึกหรือยังล่ะว่าฉันรู้สึกยังไง"
7. ไม่เคยช่วย หรือ ช่วยก็ทวงบุญคุณ
อย่าคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่จะปล่อยให้คนอื่นทำทุกอย่างโดยอ้างว่าเหนื่อย หรือทำมามากแล้ว หรือช่วยก็เพียงเพื่อให้รู้สึกถึงบุญคุณ ทั้งๆที่ประโยชน์ตกอยู่กับตัวเองมากกว่า
=======================
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่าความเห็นแก่ตัวเป็นกิเลสในตระกูลโลภะ และโลภ หนักไปหน่อยจึงเห็นแก่ตัว 
เจอคนเห็นแก่ตัวต้องเข้าใจว่า...นิสัยเห็นแก่ตัวมี 2 สาเหตุใหญ่ ๆ 
สาเหตุแรก เป็นสันดาน คือ นิสัยที่ติดตัวข้ามภพข้ามชาติมา ถ้าเจอประเภทนี้หนักหน่อย เจอต้องทำใจ
สาเหตุที่ 2 เป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นในชาตินี้ คือ เกิดจากสิ่งแวดล้อมไม่ดี คนรอบข้างไม่ดี การเลี้ยงดูไม่ดี ก็เลยทำให้อาจจะต้องแย่งชิง สิ่งเหล่านี้ค่อย ๆ สั่งสมขึ้นมา แล้วกลายเป็นนิสัยเห็นแก่ตัว อันนี้พอจะกล่อมเกลาได้แต่ต้องอดทน
แต่ยังมีอีกสาเหตุหนึ่ง คือ ตัวเองก็ไม่ดีเอง เช่น บริหารงาน บริหารเงิน ไม่เป็น สุดท้ายเศรษฐกิจฝืดเคืองเลยกลายเป็นคนเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวเข้ามาอีก แบบนี้พออุปสรรคน้อยลง ความเห็นแก่ตัวก็จะคลายลงด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น