กลยุทธ์เป็นเรื่องที่คุยกันมากและคุยกันให้มันยาก ยิ่งปัจจุบันมีหลายสำนัก หลายครูให้ติดตามอีก มันเลยดูเหมือนซับซ้อน เป็นวิชาการมาก ศัพท์แสงมากจนไม่รู้จะเริ่มอะไรก่อนดี ความรู้มันมากจนบางทีคนก็งงว่าจะทำอย่างไร อันที่จริงมันเป็นเรื่องของ “การเลือก” การเลือกทำ หรือ ไม่ทำ อันนี้ใช่ อันนี้ไม่ใช่ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ลองดูขั้นตอนแบบนี้น่าจะเป็นประโยชน์กว่า
- กลยุทธ์เป็นการตัดสินใจในไม่กี่เรื่อง และเรื่องที่สำคัญต้องตัดสินใจ คือ
- กลุ่มไหนที่เป็น target market ของเราและกลุ่มไหนที่ไม่ใช่
- สินค้า บริการอะไรที่จะเสนอให้กลุ่มที่เลือก และอะไรบ้างที่ไม่รวมในนั้น
- จะทำอย่างไรให้ได้ใจ target market ที่เราเลือก อะไรบ้างที่จะทำ และอะไรบ้างที่จะไม่ทำ
จุดใหญ่ใจความสำคัญ คือ ความชัดเจนในสิ่งที่เลือกและไม่เลือก เหตุผลสนับสนุนง่ายมาก your business cannot be everything for everyone!!! นอกจากนั้นเราไม่เพียงแต่ตัดสินใจในเรื่องสามเรื่องดังกล่าวมาข้างต้น แต่เราต้องเลือกในสิ่งที่ต่างจากคู่แข่งขันเคยทำมาแล้ว ทางเดียวที่จะประสบความสำเร็จ คือ เรามี distinctive strategic position ที่ทำให้เรายืนกินส่วนแบ่งตลาดได้อย่างชิวๆ
2. กลยุทธ์ต้องถักทอทางเลือกเข้าด้วยกันเพื่อสร้างพลังในการบูรณาการ: อันนี้เหมือนกับการต่อจิ้กซอว์ให้เห็นเป็นภาพรวม ทำอย่างเป็นระบบให้เชื่อมกันได้ระหว่างธุรกิจกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการออกแบบระบบธุรกิจนี้จะทำได้ต้องขึ้นกับเรื่องต่อไปนี้ คือ
- สิ่งที่เลือกทำ...ต้องตอบสนองตลาด
- กิจกรรมที่ทำ..ต้องสอดประสานกันได้
- กิจกรรมที่เลือก...ต้องมีความสมดุลกัน
มันแปลว่าเราต้องเข้าใจถึงสิ่งที่เลือกอย่างถ่องแท้ ต้องรู้ว่ามันเป็นระบบที่สัมพันธ์กัน จะมาอยากทำอย่างนู้นอย่างนี้ คนละเรื่องไม่ได้ ทุกเรื่องที่ทำต้อง compliment กัน ต้อง compatible กัน ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเหมือนเพลง ลามะลิลา ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ แต่เหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา
3. กลยุทธ์ต้องเหมาะสมและมีความยืดหยุ่น: การสร้างความเหมาะเจาะระหว่างสิ่งที่ธุรกิจเรานำเสนอกับความต้องการของตลาดไม่ได้ประกันความสำเร็จที่ยั่งยืน เราอยู่ในโลกที่ผันผวน ถ้าไม่เปลี่ยนตาม ไม่สามารถตอนสนองความเปลี่ยนแปลงได้ เราอาจเจ๊งได้ก่อนจะรู้ตัวเสียอีก ของมันเปลี่ยน มันปรับกันได้
4. กลยุทธ์ต้องสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมในองค์กร: สิ่งแวดล้อมในองค์กรมี 4 ประการที่สำคัญ คือ วัฒนธรรมองค์กร ระบบการให้ผลตอบแทน โครงสร้างองค์กรและคนในองค์กร เราคงต้องถามตัวเองตั้งแต่แรกเริ่มว่า เราต้องการให้องค์กรของเรามีค่านิยมวัฒนธรรมแบบไหน เราจะใช้อะไรจูงใจ โครงสร้างการบริหารจะเป็นอย่างไรและเราต้องการคนแบบไหน ทั้งสี่อย่างนี้สำคัญมากที่จะทำการขับเคลื่อนกลยุทธ์ที่เลือกได้ ถ้าเปรียบเป็นกลยุทธ์เป็นต้นไม้ มันจะแตกกิ่งเติบโตงอกงามได้ขึ้นกับวัฒนธรรม คือ ราก ผลตอบแทน คือ ดิน คืออาหารต้นไม้ คือน้ำที่รินรดใจ โครงสร้างองค์กรเป็นเครื่องมือตัดแต่งต้นไม้ให้สวยตามใจเราได้ และไม่มีคนสวนมาช่วยบำรุงต้นไม้ก็ตัวใครตัวมัน
5. ไม่มีกลยุทธ์ใดอยู่ค้ำฟ้า: กลยุทธ์เราอาจ unique วันนี้ แต่สำหรับวันพรุ่งนี้มันคนละเรื่อง สมัยนี้ใครๆก็สามารถลอกเลียน business model หรือกลยุทธ์ใหม่ๆได้ทั้งนั้นในโลกนี้ ซึ่งมันจะทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดน้อยลงทันที ต้องถามตัวเองตลอดเวลาว่าเชยแล้วหรือยัง ถามตัวเองว่าใจลูกค้าพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปหรือเปล่า และถ้าคู่แข่งเสนอสิ่งที่เหมือนเราแต่ราคาถูกกว่าจะทำอย่างไร
อันนี้เป็นขั้นตอนให้ฉุกคิดอย่างง่ายๆในการที่เราจะสร้างกลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จ มันไม่สำคัญว่าเรามี business ideas อะไร หรือเราอยู่ในอุตสาหกรรมธุรกิจอะไร สิ่งสำคัญกว่านั้นคือเรารู้ทิศทางที่จะไปหรือเปล่าและมองเห็นมันชัดหรือไม่ การมองให้ทะลุถึงผลลัพธ์สุดท้ายที่เราต้องการสำคัญมาก เพราะจะทำให้เราสามารถตอบสนองสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ถูกเรื่องและบอกได้ว่าเราต้องทำอะไรเพื่อสามารถยืนอย่างสง่าผ่าเผย โดดเด่นในตลาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น