วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

social-media literacy ของผู้นำ



Mckinsey Quarterly เดือนนี้..เดือนกุมภา เขียนถึง Six social-media skills every leader needs   เพราะยุคนี้ organization social-media literacy ได้กลายเป็นความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันอย่างรวดเร็ว ผู้เขียน คือ Roland Deiser และ Sylvain Newton ได้สัมภาษณ์ผู้บริหารของ GE พบว่า GE เห็นความสำคัญจนสนับสนุนให้มี GE Colab เมื่อปีที่แล้ว (2012)   GE Colab นั้นสร้างขึ้นโดยพนักงานของ GE เพื่อใช้ประสาน อำนวยความสะดวกให้กับ global teamwork ของ GE  ซึ่ง GE Colab มีทั้ง Facebook Twitter และ social applications อื่นๆที่ทำให้เกิดเครือข่ายการทำงานร่วมกันได้อย่างง่าย เกิดการแบ่งปันข้อมูล เกิดการสื่อสารแบบทันที มี advanced search มี blogging มี videoblogs และสารพัดที่ช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงคนของ GE   ปัจจุบันมีคนใช้เป็นแสนแล้ว  บรรดาผู้บริหาร GE จึงให้ความเห็นว่าอำนาจของ social media ทำให้เกิดการขยายขอบเขตคุณสมบัติผู้นำเดิมๆที่เน้นความมีประสิทธิภาพในการนำ ความคิดสร้างสรรค์เชิงกลยุทธ์ หรือการสื่อสารที่ชัดเจน ออกไปสู่คุณลักษณะใหม่ของผู้นำที่สามารถรับมือกับพลวัตของสังคม การเมือง ยืดหยุ่นพอจะสร้างองค์กรที่ตอบสนองได้  เช่น ความสามารถในการเชื่อมโยง multimedia content ให้จับใจคน  ความเป็นเลิศในการวิวัฒน์ร่วม (cocreation) และสร้างความร่วมมือใหม่กับโลก social media เข้าใจเครื่องมือและมีความสามารถในการปล่อยพลัง  ซึ่งสรุปได้เป็น 6 มิติ 2 ระดับ ดังรูปข้างต้น
  1. ผู้นำ คือ ผู้อำนวยการสร้าง: การสร้างเนื้อหาให้กินใจ การมีศักยภาพด้านสร้างสรรค์ผลงานของจริง การเล่าเรื่อง การมีสุนทรียวิสัย รวมถึงทักษะในการทำวิดิโอด้วยตนเอง  Mark Begor ผู้บริหาร GE Capital’s real-estate business ทำวิดิโอของตัวเองทุกอาทิตย์เพื่อแบ่งปันเรื่องราวต่างๆให้กับพนักงาน  ซึ่งถือเป็นการตกผลึกความคิดของตัวเอง เป็นกลยุทธ์ในการสื่อสารในการสร้างเรื่องราวให้พนักงานสามารถเชื่อมโยงกับตนเองได้อย่างดี  Mark Begor พบว่าแม้จะทำแบบมือสมัครเล่น ไม่เหมือนกับการผลิตวิดิโอเดิมๆของบริษัทที่เป็นทางการ แต่แบบดิบๆอย่างนี้ให้ความรู้สึกจริงกับคนมากกว่า
  2. ผู้นำ คือ ผู้ส่งสาร: การสร้าง followers อย่างต่อเนื่อง ความเข้าใจพลวัตของ message ต่างๆและเข้าใจว่าอะไรที่สร้างกระแสให้คนตาม พูดง่ายๆ คือ ความสามารถในการสร้างแฟนคลับ การส่งข้อมูล ประกาศ ข่าวสารจากผู้บริหารในองค์กรที่ผ่านมาก็เป็นไปตามช่องทางตรง แต่ social media มันปฎิวัติมาตรฐานกระบวนการส่งข้อมูลทั้งหมด  เมื่อได้โพสต์อะไรลงไปมันมีทั้ง  repost videos retweet และคอมเมนต์ต่างๆตามมาจนถึงมีการนำเอาเรื่องไปสร้างเรื่องราวต่อไปได้อีก       Lorraine Bolsinger  รองประธานและผู้จัดการของ GE Aviation Systems  มีบล็อคชื่อ 360 blog ที่ให้คน 12 คนช่วยกันสื่อสาร สร้างความต่อเนื่องให้คนตาม มี issue ต่างๆสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการสื่อสารถึงกลยุทธ์และแนวทางปฎิบัติซึ่ง Lorraine ยอมรับว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่คำพูด ข้อความของเธอจะได้รับความสนใจมากขนาดนี้ และมันช่วยให้เกิดสุนทรียสนทนากันเป็นเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ผู้นำ คือ ผู้รับสาร: เป็นการบริหารการไหลเวียนของข้อมูล  อย่างที่ทราบกันดีว่าพวก  e-mails tweets Facebook updates RSS feeds นั้นมันเป็นมหาสมุทรข้อมูล หลั่งไหลเข้ามามากเกินไป ผู้บริหารต้องมี filtering skills สามารถใช้วิธีการกลั่นกรองเป็น  อันไหนจะตอบ อันไหนจะ link อันไหนจะ share  และต้องใจอารีย์ในการตอบสนองเพราะมันหมายถึงการตามและการเลิกตามหากตอบไม่เข้าท่า  
  4. ผู้นำ คือ ที่ปรึกษา คือ วาทยากร: การขับเคลื่อน strategic social-media  ในบริษัทส่วนใหญ่เรื่อง organization social-media literacy อยู่ในระดับอนุบาล ใช้ไม่ดี ไม่สร้างระบบที่ดีจะกลายเป็นหอกทิ่มแทงองค์กรได้ สร้างความเสียหายได้  การจะเก็บเกี่ยวใช้ประโยชน์จาก social media นั้นผู้บริหารต้องลงมาคุมเอง เป็นหัวหอกในการบรรเลง  สร้างหรือเพิ่ม media literacy ให้กับคน ต้องเป็นที่ปรึกษาที่สามารถวางใจได้ สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ร่วมกัน สร้างวัฒนธรรมใหม่ในการสื่อสาร สร้าง DNA of collaborative technology 
  5. ผู้นำ คือ สถาปนิก: การวางโครงสร้างพื้นฐานให้เหมาะ การสร้างปัจจัยสนับสนุนให้เอื้อต่อการขับเคลื่อน strategic social-media  ป้องกันการใช้ social media ที่ไร้สาระ ต้องมีความสามารถในการใช้ประโยชน์จาก social media ให้เข้ากับหน้าที่หลักขององค์กร
  6. ผู้นำ คือ นักวิเคราะห์ : การไม่เพียงแต่เกาะติดสถานะการณ์ แต่ต้องสามารถรู้ล่วงหน้า GE’s leadership university ในเมือง Crotonville มีหลายโปรแกรมที่ช่วยให้บรรดาผู้บริหารสามารถมองการณ์ไกล เช่น Leadership Explorations เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้บริหารเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และใน  Silicon Valley ผู้บริหารได้เรียนรู้อย่างมากเกี่ยวกับพวก cutting- edge technologies  แปลว่าผู้บริหารต้องสามารถเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมการใช้เทคโนโลยีรวมทั้งพลวัตของ social media industry อย่างถ่องแท้
ในขณะที่องค์กรบ้านเรายังไล่ปิด Facebook กันจ้าละหวั่น ห้ามพนักงานใช้  บริษัทระดับโลกกลับใช้ประโยชน์อย่างจริงจังกับ social media อย่างเป็นเรื่องเป็นราวเป็นประโยชน์โภชน์ผล ผู้บริหารเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพการเข้าถึงและใช้ social media แบบถึงแก่น    ทำไมเราไมใช้ social media ให้เป็น  competitive advantage กันบ้างโดยเริ่มจากพัฒนาคุณลักษณะใหม่ๆ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น