เวลาของแต่ละคนเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป ตัวเองหรือคนอื่นก็ไม่สามารถใช้อีกได้ เวลาจึงเป็น Private Goods ของใครของมัน...ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแต่ละคน และเวลาไม่เคยมีค่า ถ้ามันยังไม่ผ่านเลยไป หลายคนคงเคยเห็นคำกล่าวต่อไปนี้...
ถ้าอยากรู้ว่าเวลา 4 ปีมีค่าแค่ไหน ให้ไปถามนิสิตนักศึกษาที่เพิ่งรับปริญญาจากมหาวิทยาลัย
ถ้าอยากรู้ว่าเวลา 1 ปีมีค่าขนาดไหน ใหัไปถามนักเรียนที่สอบไล่ตก
ถ้าอยากรู้ว่าเวลา 1 ชั่วโมงมีค่าขนาดไหน ให้ไปถามคนรักที่รอพบกัน
ถ้าอยากรู้ว่าเวลา 1 นาทีมีค่าขนาดไหน ให้ไปถามคนที่พลาดรถไฟ รถประจำทางหรือ เครื่องบิน
ถ้าอยากรู้ว่าเวลา 1 วินาทีมีค่าขนาดไหน ให้ไปถามคนที่รอดตายจากอุบัติเหตุอย่างหวุดหวิด
ถ้าอยากรู้ว่าเวลา เสี้ยวหนึ่งของวินาทีมีค่าขนาดไหน ให้ถามนักกีฬาโอลิมปิคที่ได้เหรียญเงิน
และถ้าอยากรู้ว่ามิตรภาพนั้นมีค่าขนาดไหน ให้ลองเสียเพื่อนสักคนหนึ่ง
เรื่องในชุดนิทานสีขาวของดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยาที่เกี่ยวกับเรื่องเวลาเรื่องนี้ จะสะท้อนให้เราเห็นว่า...เวลา แม้หนึ่งนาทีมันทรงอานุภาพแค่ไหน เรื่องมีอยู่ว่า... ครอบครัวหนึ่งมีลูกชายชื่อเจี๊ยบ เป็นเด็กที่ไม่กระตือรือล้น ทำอะไรชักช้า และขี้เกียจ ทุกเช้าเมื่อแม่เรียกให้ตื่นไปโรงเรียน เจี๊ยบจะงัวเงียบอกว่า "ขออีก 1 นาทีครับแม่" พอลงมาข้างล่างแทนที่จะรีบกินข้าวเช้าก็ไปเปิดโทรทัศน์นั่งดูการ์ตูน พอแม่เรียกให้มากินข้าวก็บอกว่า "เดี๋ยวแม่ ขออีก 1 นาที" จนแม่เอ่ยปากว่าจะทำโทษนั่นล่ะ เจี๊ยบถึงจะมานั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารได้สักที
"คอยดูเถอะเจี๊ยบ" พ่อซึ่งมองลูกชายคนเดียวอย่างระอาพูดขึ้น "สักวันแกจะต้องเจอเรื่องที่แม้หนึ่งนาทีก็ให้ไม่ได้ ถ้าถึงวันนั้นแล้วแกจะรู้สึก"
"คอยดูเถอะเจี๊ยบ" พ่อซึ่งมองลูกชายคนเดียวอย่างระอาพูดขึ้น "สักวันแกจะต้องเจอเรื่องที่แม้หนึ่งนาทีก็ให้ไม่ได้ ถ้าถึงวันนั้นแล้วแกจะรู้สึก"
การขอเวลา 1 นาทีทำให้เจี๊ยบไปโรงเรียนสายทุกวัน ถูกทำโทษให้วิ่งรอบสนามทุกัน แต่เจี๊ยบก็ไม่ได้จดจำเลยแม้แต่น้อย และยังกล้าต่อรองเวลาแม้แต่กับครู "ไปเข้าห้องเรียนได้แล้วเจี๊ยบ" ครูร้องเตือนเมื่อเห็นเจี๊ยบยังเดินเอ้อระเหยลอยชายอยู่ในสนามหญ้า ทั้ง ๆ ที่ออดเรียกเข้าชั้นเรียนดังไปพักหนึ่งแล้ว "ขออีก 1 นาทีครับครู" เจี๊ยบบอกโดยไม่ทุกข์ร้อน
วันหนึ่งเป็นวันหยุด แม่บอกเจี๊ยบตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าจะไปเยี่ยมยายที่บ้านสวน เจี๊ยบชอบบ้านสวนของยายจึงขอตามแม่ไปด้วย แต่พอรุ่งเช้า เจี๊ยบก็ตื่นสาย ไม่ว่าแม่จะขึ้นไปปลุกกี่ครั้ง เจี๊ยบก็พูดว่า "ขออีก 1 นาที ขออีก 1 นาที" ตลอด ในที่สุดแม่ก็ตัดสินใจไปบ้านสวนของยายคนเดียว เพราะถ้าออกช้ากว่านั้นจะหารถโดยสารไปยาก สักพักเจี๊ยบก็เดินงัวเงียลงมาจากห้องนอน เมื่อไม่เห็นแม่อยู่ในบ้านจึงถามพ่อว่า "แม่ล่ะครับพ่อ" "แม่ไปบ้านยายแล้ว" พ่อบอก "อ้าว ทำไมไม่รอผม" เจี๊ยบร้องขึ้นเพราะอยากไปบ้านสวนของยายมาก
"แม่รอแกจนรอไม่ได้อีกแล้ว รู้รึเปล่าว่าแค่ 1 นาทีที่แกขอก็ทำให้แม่ตกรถได้ นี่ยังไม่รู้เลยว่าแม่จะได้นั่งรถอะไรไป ถ้าโชคดีก็ได้ไปสายรถประจำ แต่ถ้าไปไม่ทันก็ต้องขึ้นรถที่วิ่งเป็นทางผ่าน แล้วรถสายนั้นน่ะขับอันตรายจะตายชัก" พ่อบ่นเจี๊ยบด้วยความเป็นห่วงแม่ "แหม ไม่แย่ขนาดนั้นหรอกน่าพ่อ" เจี๊ยบบอก
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ขณะที่เจี๊ยบกำลังอาบน้ำอยู่ เขาก็ได้ยินเสียงพ่อร้องเอะอะอยู่ชั้นล่าง จึงรีบวิ่งลงมาดู หน้าของพ่อซีดขาวราวกับกระดาษ "รถที่แม่นั่งประสบอุบัติเหตุ แม่อาการสาหัส เราต้องไปที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้" พ่อพูดเสียงแตกพร่า เจี๊ยบตกใจจนหน้าซีดตามพ่อไปอีกคน เขารีบขึ้นไปแต่งตัวโดยไม่มีคำว่า "ขออีก 1 นาที" เหมือนเช่นทุกครั้ง
ทันทีที่สองพ่อลูกไปถึงโรงพยาบาล ก็ช่วยกันตามหาแม่ในห้องฉุกเฉิน แล้วก็พบแม่นอนนิ่งอยู่ที่เตียงในสุด เลือดสีแดงไหลอาบอยู่เต็มหน้าแม่ และพยาบาลกำลังจะเข็นแม่ไป
"แม่ แม่" เจี๊ยบร้องเรียกแม่เสียงดังลั่น น้ำตาเอ่อล้นทะลัก บุรุษพยาบาลเข้ามากันเขาไว้ เพราะเกรงว่าจะกีดขวางทางของรถเข็น "แม่ แม่ ตื่นสิแม่ ผมอยู่นี่ อยู่ตรงนี้" เจี๊ยบยังคงร้องเรียกแม่ต่อไป และทุบตีบุรุษพยาบาลที่จับตัวเขาไว้ "ปล่อยผม ผมจะไปหาแม่" พยาบาลคนหนึ่งหันมาบอกพ่อของเจี๊ยบซึ่งยืนกุมมือแม่อยู่ว่า "เราต้องพาภรรยาของคุณไปผ่าตัดด่วน เธอเสียเลือดไปมาก"
คำพูดนั้นทำให้เจี๊ยบรู้ทันทีว่าเขาจะไม่ได้เห็นหน้าแม่อีก "เดี๋ยวครับ ขอเวลาให้ผมอยู่กับแม่สัก 1 นาที ได้โปรดให้ผมได้บอกแม่ว่า ผมรักแม่ ให้ผมได้กอดแม่อีกสักครั้ง" เจี๊ยบร้องอ้อนวอนอย่างน่าเวทนา แต่ไม่มีใครฟัง พยาบาลและบุรุษพยาบาลเข็นเตียงของแม่เข้าห้องผ่าตัด และหายไปในนั้นเป็นเวลานาน ก่อนที่แพทย์จะออกมาแจ้งข่าวร้ายว่า.....แม่ของเจี๊ยบเสียชีวิตไประหว่างการผ่าตัด
เจี๊ยบมารู้ภายหลังว่า รถคันที่แม่นั่งไปประสบอุบัติเหตุนั้น ไม่ใช่รถเมล์สายประจำไปบ้านยาย แต่เป็นรถสองแถวที่ขับโดยคนขับรถที่ขาดความรับผิดชอบ อยากได้เงินมากมากจนไม่สนใจความปลอดภัยของผู้โดยสาร แม่ของเจี๊ยบมาคนสุดท้ายจึงต้องนั่งเบียดอยู่นอกสุด และกระเด็นออกไปไกลเมื่อรถประสบอุบัติเหตุ
พ่อโกรธคนขับรถมาก บอกจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่เจี๊ยบไม่โกรธคนขับรถเลย เขาโกรธและเกลียดตัวเอง ด้วยเพิ่งเข้าใจว่าเวลา 1 นาทีที่เขาเคยขออย่างพร่ำเพรื่อนั้นมีค่ามากมายเพียงไร เพราะ 1 นาทีที่ได้มาในวันนี้ต้องแลกกับเวลาทั้งหมดในชีวิตของแม่ ถ้าเจี๊ยบตื่นทันทีที่แม่เรียก ถ้าเขาไม่ขอแค่ 1 นาทีเพื่อให้ได้นอนต่อ แม่ก็คงไม่ตกรถประจำทางจนต้องไปนั่งรถปิศาจคันนั้น กระทั่งถึงคราวที่เจี๊ยบต้องการเวลาจริง ๆ เขากลับไม่มีแม้เพียง 1 นาทีที่จะได้อยู่กับแม่ ไม่มีแม้เพียงวินาทีด้วยซ้ำไป...ไม่มีเลย
ใครๆก็รู้นะว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่า แต่อันที่จริง เวลาอาจจะไม่ใช่ปัญหา เพราะแต่ละคนต่างเป็นเจ้าของเวลาของตนและก็มีอย่างเท่าเทียมกันคนละ 24 ชั่วโมง แต่สิ่งที่เป็นปัญหาเมื่อคนมาอยู่รวมกัน คือ เวลาในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เวลาที่ต้องทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดร่วมกัน อย่ามัวนึกถึงแต่เวลาของตัวเอง เวลาของคนอื่นก็มีค่าเช่นกัน และแค่หนึ่งนาทีของคนอื่นอาจจะถึงเป็นถึงตายได้
อย่างไรก็ตาม...เวลาไม่ได้กำหนดชะตาชีวิตเราเสมอไป เราสามารถกำหนดเป้าหมายในแต่ละช่วงเวลาของชีวิตว่าในแต่ละช่วงเวลาของชีวิตเราจะทำอะไรบ้าง ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ต้องใช้เวลาอย่างไร อย่าให้เวลาบริหารเรา เราต้องบริหารเวลา...โดยเฉพาะเมื่อใช้เวลาร่วมกับคนอื่น และอย่าคิดว่าเวลามีเหลือเฟือ บางทีเวลาที่เราคิดว่าเรามีมากเพียงพอนั้น จะหดหายไปดื้อๆภายในพริบตา ชีวิตนี้ต้องสร้างเวลาของเราให้มีค่ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวินาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน หรือปี
Time = Life, Therefore, waste your time and waste of your life, or master your time and master your life.
Alan Lakein
Alan Lakein
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น