เป็นคนที่คิดว่า Personal Core Values นั้นสำคัญอย่างยิ่ง เป็น invisible hand ที่นำพาชีวิต เป็นเหตุของเหตุผลทั้งมวลแห่งการกระทำของคน ทุกคนมีเป็นของตัวเอง แต่ชัดไม่ชัด รู้ไม่รู้อีกเรื่องหนึ่ง บางครั้งเราก็รู้สึกว่าอะไรในตัวของเรานี่มันไม่ match อะไรกับคนอื่นเลยหรือยังไง เราใช้มันเลือกมิตรภาพ ความสัมพันธ์ เลือกคู่ค้าทางธุรกิจ และมันยังช่วยเราอย่างแยบยลในการบริหารจัดการสินทรัพย์ เงินทอง และที่สำคัญ คือ การใช้เวลาของเราด้วย เราใช้มันไปแบบอัตโนมัติทุกวันทุกวัน แต่จะให้ดี เราน่าจะมาสำรวจให้มันรู้แล้วรู้รอดไป จะได้รู้ตัว ยอมรับ และเข้าใจตัวเองกับชาวบ้านมากขึ้น อยู่ในสังคมของเรา อยู่กับคนทั้งใกล้ตัวไกลตัว มีความสัมพันธ์ มีการทำงานอย่างเข้าใจ ไม่ว้าวุ่น หรือจะดีไปกว่านั้น อะไรที่ไม่ชอบมาพากลก็พยายามเปลี่ยนมันไป เป็นการพัฒนาตัวเองจากราก ซึ่งจริงๆแล้วมันดูได้ง่ายๆจากการตัดสินใจในเรื่องต่างๆจากแต่ละวันที่มีชีวิตนะ หรือจะให้ดีก็ลองเขียนมันลงกระดาษไปเลยให้เห็นกันจะจะ
อันนี้เป็นของตัวเอง ใช้มันอยู่ทุกวันเวลาทั้งตอนรู้ตัวและไม่รู้ตัว มันเป็น decision guidelines ที่ทำให้เราเป็นคนจริงต่อตัวเอง ใช้มันแก้ปัญหา
ความจริง: คนบางคนโกหกเป็นนิสัย ซึ่งไม่ใช่เรา เราจะชอบมากถ้าเจอคนตรงๆซื่อๆ ในโลกเล็กๆของเรา เราจารึกไว้เลยว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เป็นความจำเป็นของชีวิตเรา ไม่ว่ามันจะทุเรศขนาดไหน เลวร้ายสุดขีดชีวิตก็ตาม อันนี้มันทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้
ความคิดสร้างสรรค์: การที่เป็นครูบาอาจารย์ การเป็นที่ปรึกษา การเป็น CEFE trainer มันต้องไม่ตันอยู่แบบเดิมๆ ทุกครั้งที่ทำงานมันต้องมีอะไรใหม่ที่ดีกว่าเดิม ไม่ใหม่ทางนามธรรม ก็ใหม่ทางรูปธรรม ทุกวันนี้มีเพจที่ต้องคิดสร้างสรรค์ ถึงจะเอาของชาวบ้านมาบ้างแต่ก็ต้องคิดเพิ่ม คิดในมุมที่เราเห็นว่ามันยังไม่มีใครคิด ทำอะไรมันต้อง compelling แค่เล่น line play ก็ต้องเปลี่ยนบ้านมันทุกวัน คือ มันต้อง connect มันต้อง entertain ต้องมี intrigue กันบ้าง
ความถูกต้อง: อันนี้เป็นกลไกอัตโนมัติ ชีวิตนี้เห็นอะไรที่ไม่ถูกต้อง ทนไม่ได้ ความไม่เสมอภาค ความไม่ยุติธรรมนี่มันบ่อนทำลายทุกอย่าง ถึงใครจะว่าเราโง่ เราเสียภาษีอย่างถูกต้อง เราไม่โกงคนอื่น เรายอมเสียเวลา เสียเงินเพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านความไม่ชอบมาพากล ใครท่าทางทำไม่ถูกเราไม่ร่วมสังฆกรรม
การยอมรับผลกระทบ: ชีวิตนี้ทำอะไรลงไปล้วนรู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น หวังเลย หวังให้มันเกิดขึ้น หรือ ไม่เกิดขึ้น ไม่เคยจะลังเลถามตัวเองว่า จะทำไหม จะดีไหม แต่ทำไปเลย อยากไปไหนรู้ว่าต้องสบายใจแน่ ไปเลย ไปคนเดียวก็ไป จะลาออกจากงานรู้ว่าลำบากไม่มีกินอิ่มหมีพีมัน แต่รู้ว่ามันถึงเวลา ก็ลาออกไปเลย ง่ายๆ คือ maximum results for minimum effort เอาหมด และมันทำให้เราสว่างในหลายๆเรื่อง
การมีเสรีภาพ: ไม่อยากเป็นทาสอะไรทั้งนั้น โดยเฉพาะเป็นทาสคน จึงเลือกชีวิตที่เป็นอิสระ ยอมเงินน้อยๆแต่ได้คิดเอง ทำเอง ไม่ต้องติดตำแหน่ง ฐานะ ชื่อเสียงอะไรทั้งนั้น อยู่มันแบบ freelancer นี่แหละ จนเป็นจน มีก็กิน ไม่มีไม่กิน ไม่ใช้ ที่ผ่านมาตัวนี้เป็นตัวกำหนดชีวิตมากที่สุด เลยตัองอยู่ตัวคนเดียวไป
การมีเสรีภาพ: ไม่อยากเป็นทาสอะไรทั้งนั้น โดยเฉพาะเป็นทาสคน จึงเลือกชีวิตที่เป็นอิสระ ยอมเงินน้อยๆแต่ได้คิดเอง ทำเอง ไม่ต้องติดตำแหน่ง ฐานะ ชื่อเสียงอะไรทั้งนั้น อยู่มันแบบ freelancer นี่แหละ จนเป็นจน มีก็กิน ไม่มีไม่กิน ไม่ใช้ ที่ผ่านมาตัวนี้เป็นตัวกำหนดชีวิตมากที่สุด เลยตัองอยู่ตัวคนเดียวไป
สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจ มันมี Personal Core Values Exercise ของ Kevin Daum เป็น best-selling author คนหนึ่ง ที่เห็นว่าถ้าเราลองตอบคำถามตามขั้นตอนของเขา เราอาจจะชัดเจนในค่านิยมหลักของเรามากขึ้น เขาแนะนำว่า
Step 1 คิด พิจารณาและอธิบายสิ่งต่อไปนี้:
ความสำเร็จยิ่งใหญ่ของเรา 3 เรื่อง
ช่วงชีวิตที่ีประสิทธิภาพ 3 เรื่อง
เรามีเหตุผล หลักการ หลักคิดอะไรบ้าง
Step 2 คิด พิจารณาและอธิบายสิ่งต่อไปนี้:
ความล้มเหลวที่สุด 3 เรื่อง
ช่วงชีวิตที่ีไร้ประสิทธิภาพ 3 เรื่อง
เรามีเหตุผล หลักการ หลักคิดอะไรบ้าง
Step 3 เขียนข้อแนะนำสำหรับตัวเองสัก 3 - 4 ข้อที่สามารถใช้เป็นบทเรียนสำหรับชีวิตที่ผ่านมาที่สอดคล้องกับคำตอบที่ได้ในขั้นตอนที่ 1 และ 2
Step 4 จากนั้นลองสรุปให้เหลือเป็นคำๆให้น้อยที่สุด เช่น “อย่าสวาปามกินมาก เมามากเละเทะเวลามีงานเลี้ยง จะมีทุกข์หนักภายหลัง” ก็ให้เหลือแค่ “ควบคุมตัวเอง เน้นทางสายกลาง” เป็นต้น
Step 5 ตอนนี้เป็นการทดสอบ ให้คิดถึงเหตุการณ์ที่ core value ของเรามันทำให้เราซวยซ้ำซวยซ้อน มากกว่าที่จะทำให้เราชิวสบาย เช่น เราคิดว่านวัตกรรมนี่มันยอด แต่เราเองกลับอยู่กับที่ ไม่เคยจะเปลี่ยนอะไรได้เลย จึงไม่มีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นในชีวิต มันแปลว่าจริงๆเราไม่ได้เป็นคนสร้างสรรค์อะไรเลย มันป็นแค่ตามๆเขาไป เราก็เป็นแค่ตามกระแส เป็นต้น ลองคิดให้ดี ถ้าคิดไม่ออก ก็ดี คือ ค่านิยมหลักที่มีไม่เคยทำให้เดือดร้อน โชคดีไป
เรื่องแบบนี้ คนต้องเห็นความสำคัญจึงมานั่งพิจารณาตัวเอง ส่วนใหญ่จะเห็นว่าเสียเวลาเพราะคิดว่รู้ตัวอยุ่แล้ว สำคัญ คือ ทำแล้วให้ซื่อสัตย์ต่อตัวเองมากๆเข้าไว้ นั่งคิดกับคนที่เราไว้ใจก็ดีมาก เพราะจะได้ honest feedback เป็นการช่วยเหลือกัน ก็สนุกไปอีกแบบ ขอจบด้วย Mahatma Ghandi "Your beliefs become your thoughts. Your thoughts become your words. Your words become your actions. Your actions become your habits. Your habits become your values. Your values become your destiny”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น