วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560

the Power within YOU


ได้รับเชิญจากคณะแพทย์ศาสตร์ มช. ให้ไปพูดเรื่อง the Power within YOU มีตกใจบวกตื่นเต้นเล็กน้อย บอกเขาไปว่าเราไม่ได้เป็นนักพูดที่สร้างพลังขนาดนั้น คงไม่ได้ทำให้คนฮึกเหิมแบบลืมตัวลืมตายได้ มีแต่แนวคิดที่จะแบ่งปัน...เพื่อคนฟังจะได้คิด ได้มีกำลังใจและเห็นทางฮึดด้วยตัวเอง เพราะเชื่อว่าพลังในตัวนั้น มันอยู่ที่คนมีปัญญาจะคิดจะดึงมาใช้  และที่จะพูดไม่ได้เกี่ยวกับพลังพิเศษเหนือมนุษย์มนา ประเภทวิ่งสามวันสามคืนไม่หยุด 7-10 นาทีต่อไมล์แบบนักวิ่งมาราธอนชาวอเมริกาที่ชื่อ ดีน คาร์นาเซส ที่วิ่งต่อเนื่องได้โดยกล้ามเนื้อเสียหายน้อยกว่าคนธรรมดา หรือวิม ฮอฟคนไม่เคยหนาว แช่ในถังน้ำแข็งที่คนธรรมดาอาจตายได้ แต่อุณหภูมิร่างกายพี่เขาแทบไม่ลดลง หรือคุณปู่มิเชล โลติโตที่กระเพาะหนากว่าคนปกติถึงสองเท่า มีน้ำย่อยเป็นกรดแรงสูงสามารถกินเครื่องบินเล็กทั้งลำได้ หรือหนุ่มอัจฉริยะแบบสตีเฟน วิลท์เชียร์ที่จดจำรายละเอียดของทั้งเมืองได้ แค่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์วนรอบเดียว ลงมาวาดแผนที่เมืองได้เลย อันนั้นมันเหนือคน เราไม่นับ 

ที่จะพูดนี้ เกี่ยวกับคนธรรมดาที่ไม่ได้มีพลังพิเศษอันใด คนธรรมดาที่มีพลังใจในการขับเคลื่อนชีวิต คนที่ปกติที่ทำมาหากิน มีล้า มีท้อ มีเหนื่อย ว่าจะมีวิธีคิดยังไงที่จะทำให้กระทำกิจกรรมการงานได้อย่างมีพลังมากขึ้น 

the Power within YOU start with WHY
มีความเชื่อว่า ทุกชีวิตมี WHY ของตัวเอง มีแรงจูงใจ มีความเชื่อ มีค่านิยมที่พาเราไปทำอะไรๆในชีวิต และ WHY นี่เองที่เป็น “พลังภายใน” ที่แท้ ไม่ต้องใช้พลังเหนือคนเลย

ลองนึกภาพตาม...ตัวอย่างพลังภายในที่ยิ่งใหญ่...ยาวนานที่สุดของ “หนึ่งชีวิต” พลังที่ไม่เคยล้า ไม่เคยท้อ กล้าแกร่ง สาดแสงทั่วประเทศมาตลอดระยะเวลา 70 ปี เป็นพลังของใคร...เรามีทุกอย่างที่ดีในประเทศไทยนี้เพราะใคร... 

start with WHY
พลังของในหลวงภูมิพล เริ่มที่ WHY จากพระปฐมบรมราชโองการ “ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”  เพื่อบ้าน เพื่อเมือง เพื่อความสุขของคนไทยทั้งประเทศทุกคน  ครั้งหนึ่ง หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า.... 
“เคยทรงเหนื่อย ทรงท้อบ้างหรือไม่” 
ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสตอบว่า.... 
“ความจริงมันน่าท้อถอยหรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านคือเมือง คือ ความสุขของคนไทยทั่วประเทศ”

พลังความผูกพัน ความห่วงใยนี้ที่ทำให้ในหลวงทรงทุ่มเท พระวรกายและพระราชหฤทัยคิดค้นหาทางอยู่ตลอดเวลาที่จะทำให้ราษฎรคลายทุกข์และอยู่ดีกินดี อันนี้เป็นพลังภายในที่มาจาก WHY ของในหลวง อยากเรียกพลังนี้ว่า “พลังหลวง” เป็นพลังภายในของในหลวง พลังที่ทำให้พระองค์ท่านเดินขึ้นเขา บุกป่าฝ่าดง เสด็จในที่กันดาร  พลังที่ทำโครงการมากกว่าสี่พันโครงการ ทรงทำมาตลอดแม้ยามทรงประชวร ไม่ยอมเสวยสุขดั่งพระราชาที่อยู่ในนิทาน 
“....เขาบอกพระราชา นั่งอยู่บนบังลังก์ ใส่เสื้อคลุมหนัง บนยอดปราสาทเสียดฟ้า
แต่ว่าราชาของฉัน ทรงเดินอยู่บนผืนหญ้า เก้าอี้ของพระราชา คือ พื้นดิน....”
พลังภายในที่มาจาก WHY ทำให้พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่เหนือกษัตริย์ใดใด  เป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองใจคน เป็นหนึ่งเดียวในโลกที่หาไม่ได้อีกแล้ว  พลังหลวงนี้ยังแผ่ไพศาลไปทั่วประเทศให้เรา “เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” และพลังหลวงจะอยู่กับเราไปนิรันดร์ 

they all started with WHY
คนที่ทำอะไรยิ่งใหญ่ในโลก ล้วนเริ่มที่ “WHY” 
“WHY” ของพี่น้องตระกูล Wright คือ to fly 
ทำให้ผู้คนในปัจจุบันไปไหนมาไหนสะดวกสบายรวดเร็วโดยเครื่องบิน 
“WHY” ของ Martin Luther King ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองชาวอเมริกันผิวสี คือ to change for the better of everyone
“WHY” ของ Steve Jobs คือ to make an impact, a very big impact !!
เป็นที่มาของ i ทั้งหลายที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้

พลังยิ่งใหญ่มาจากใจที่ใหญ่กว่า
ถ้าสังเกตุดู WHY ของคนที่ยิ่งใหญ่ที่กลายเป็นพลังใหญ่ในตัว จะพบว่าพลังนั้นเป็นพลังเมตตา พลังที่ให้ พลังแห่งจิตสาธารณะ พลังบุญล้วนๆ 

a life lived for other is a life worth living - Albert Einstein 

exist on your OWN terms
คราวนี้มาถึงเรามั่ง ชื่อมันก็บอกว่า the power within YOU ไม่ต้องไปขอ บนบาน ศาลกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหน ขอไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น กลับทำให้เสียนิสัย งอมืองอเท้า ไม่ยอมใช้ความสามารถตัวเอง พลังนอกตัวไม่ได้ช่วยอะไร  มันไม่ใช่คำตอบ 

WHY คือ พลังข้างใน คือ ศรัทธาในตัวเอง มัน คือ พลังศรัทธา ซึ่งอาจจับต้องไม่ได้ มันเหมือนกับ wifi มองไม่เห็น แต่มี power ที่จะเชื่อมต่อไปยังสิ่งที่เราต้องการ 

ชีวิตนี้พึ่งใครไม่ได้ ต้องพึ่งตัวเอง พึ่งตัวเองก่อนจะเรียกร้องให้ใครมาช่วย คนอื่น คือพลังนอกตัว เอาไว้เมื่อหมดมุก ใช้ของตัวเองไปสุดๆแล้ว ค่อยว่ากัน 

การจะมีศรัทธาในตัวเองมันขึ้นกับว่าเรายอมรับตัวเองได้แค่ไหน 
พอใจหรือไม่กับที่เราเป็น อยู่ คือในทุกวันนี้  
รับไม่ได้ = พลังหดหาย
รับได้ = พลังมา (ชาร์ตแบตกันเลย)

เหนือสิ่งอื่นใด คือ ไฟในตัวเอง คือ passion 
และมันต้องมาจาก WHY แนวคิดนี้ได้มาจากหนังสือ “Start with Why” ของ Simon Sinek ซึ่งเขียนเรื่องนี้เพื่อให้คนที่เป็นผู้นำสามารถจะ inspire คนได้

คนที่จะใช้พลังของตัวเอง ต้องมาจาก WHY ของตัวเอง
ถ้าทำไปวันๆ ไม่รู้ WHY คนอื่นทำอะไรก็ทำตาม ไม่มีวันจะได้ใช้พลังภายใน
สะกด the Power within YOU ไม่เป็นกันเลยทีเดียว

Simon Sinek มีโมเดลคิดที่เรียกว่า Gloden Circle ประกอบด้วยวงในสุด คือ Why วงกลาง คือ How และวงนอกสุด คือ What  ใช้ในการตอกย้ำว่า..ทุกอย่างเริ่มต้นที่ Why ที่อยู่วงในสุด ปกติคนจะลืม แต่จะเห็นแค่ What  เรากำลังทำอะไร คนอื่นทำอะไร แค่นั้น ซึ่งถ้าคิดจากวงนอกเข้ามา มันจะเป็นการทำตามคนอื่น outside-in เป็น conventional thinking ไม่มีอะไรแตกต่าง ไม่ทรงคุณค่า ไม่ทรงพลัง  แต่ถ้าคิดจากในออกมา inside-out จะสามารถสร้างพลังให้ตัวเองได้มากกว่า เกิดอะไรที่ remarkable ได้  การทำตามคนอื่นมันคือการไม่คิด ตามธรรมเนียม ตามบรรทัดฐาน ตามที่เขาทำๆกัน มันจะเกิดพลังในตัวได้ยังไง ตรงกันข้ามมันทำให้แบตเราเสื่อมด้วยซ้ำไป

เพราะว่า WHY คือ จุดประสงค์ คือ แรงบันดาลใจ สิ่งที่เราเชื่อ ส่วน How มันมาจาก WHY เป็นกระบวนการที่เราจะทำให้เกิดผลลัพธ์ คือ What มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไปถึง WHY ของเรา ว่าทำไมเราถึงทำและผลมันเป็นแบบนี้

แต่เรื่องเศร้า คือ คนในโลกนี้รู้ว่ากำลังทำอะไร บางคนรู้ว่าจะทำยังไงกับสิ่งที่ต้องการ แต่น้อยคนที่จะรู้ชัด ตระหนักในใจว่า “ทำไมถึงต้องทำ”

ขอยกตัวอย่างชัดๆจากบริษัท Apple บริษัทนี้เริ่มต้นที่ WHY ของ Steve Jobs คือ to make an impact, a very big impact ! เชื่อในความท้าทายและการทำอะไรที่แตกต่าง dare to be different, think different มันจึงออกมาเป็น How คือ กระบวนการดีไซน์ที่ล้ำ สวยงามและการใช้งานที่ง่าย user friendly และในที่สุดค่อยมาเป็น What คือ สินค้า i ทั้งหลายที่เอาเงินไปจากกระเป๋าเราอย่างที่เราเต็มใจ 

WHY นี่ช่างทรงพลัง !!
Simon Sinek ถึงว่าไว้ คนซื้อเพราะ WHY มันแตกต่าง มันได้หน้า มันฟิน ไม่ได้ซื้อที่สินค้าหรือ What มันคือ passion ที่ขับเคลื่อนออกมาจนเป็น What !! เป็นสินค้า 
ที่ว่ามานี้มันอาจดูไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรือทฤษฎีที่พิสูจน์มา แต่อยากให้อีกมุมมองที่เป็นทางวิทยาศาสตร์ด้วย มันเกี่ยวกับสมองคนนะ สมองที่เรียกว่า Limbic Brain มันเป็นสมองส่วนของความรู้สึก การตัดสินใจ มันเป็นส่วนที่คนจะฟินหรือไม่ฟินนั่นแหละ และส่วนนี้ มัน คือ WHY และ How ส่วน What นี่อยู่ในส่วนของ Neocortex เป็นส่วนของวิเคราะห์ เหตุผล  เราซื้อ Apple เพราะมันฟิน มัน Why ไม่ได้พิจารณาอะไรมากมายด้วยซ้ำ หรือพิจารณาเหตุผลก็น้อยนัก หนักเข้านี่ซื้อเพราะ passion  ถ้าเปรียบเทียบไปมันมีสินค้าแบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพสมราคามากกว่านี้นะ เช่น Huawei กล้องก็ดีกว่า บางคนว่า Samsung สีสวยกว่า อีกมากมาย แต่ลองไปถามพวกที่ใช้ Apple ดู มันล้วนมาจาก WHY !!

โลกปัจจุบันมันเป็นโลกของ Experience Economy โลกที่สนใจเรื่อง “ฟิน” “feeling” “relationship” เราจะเอาส่วน Neocortex มาเป็นพลังได้ยังไง มันเชยไปแล้ว มัน conventional มันเป็น passive consumption มันไม่ remarkable ไม่ active participation มันไม่ขับเคลื่อนพลังภายใน 

the Power within YOU เป็นพลังที่มาจาก WHY มาจาก Limbic Brain ที่มันได้ feel และ feel ได้ = พลังภายใน สาย “ฟิน”

การจะ inspire ตัวเอง จึงต้องเริ่มที่ WHY เพราะว่าเราสื่อสารกับตัวเองด้วย...จุดประสงค์ ความเชื่อของเรา ความรู้สึก...พฤติกรรม...การตัดสินใจจะถูกขับเคลื่อนไปในทิศทางนั้น มัน คือการกระตุ้นสมองส่วนที่ inspire behavior 

ถามตัวเอง WHY ของเรา คือ อะไร 
  • อะไรที่ทำให้เรา special 
  • how do you think 
  • อะไรที่เราเห็นว่าสำคัญ 
  • อะไรที่ต้องทำ 
  • ความเชื่อของเรา 
  • why you do what you do 
  • เหตุผลที่ตื่นขึ้นตอนเช้าทุกวัน 
  • คนพึ่งพาเราเรื่องอะไร 
  • เรายึดติดกับอะไร

WHY งามๆ 
  • เพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง
  • เพื่อแสวงหาความเชี่ยวชาญและความเข้าใจ
  • เพื่อการคิดที่แตกต่าง
  • เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่มีพื้นฐานบนความไว้ใจ
  • เพื่อการพัฒนาและสร้างคุณค่า
  • เพื่อหนทางที่ดีกว่า
  • เพื่อเสียสละประโยชน์ส่วนตนให้ส่วนรวม
  • To Change
  • To Simplify

WHY  = ความชัดเจน = พลัง 
คนส่วนมากมีชีวิตที่ขาดพลัง เพราะว่าไม่มีความชัดเจนกับชีวิตของตัวเอง ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วต้องการอะไร ต้องการมีชีวิตแบบไหน แม้แต่ที่บอกว่าต้องการมีความสุข ต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น ต้องการประสบความสำเร็จ……แต่ตอบไม่ได้ว่า...………ความสุข ความสำเร็จ และชีวิตที่ดีขึ้นที่บอกนั้นคืออะไร

WHY = “เต็มที่” 
การลงมือทำสิ่งต่างๆให้สุดความสามารถ คือ เครื่องมือชั้นดี ที่ช่วยสร้าง “พลัง” และแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง

WHY = การเรียนรู้ 
การเรียนรู้จากทุกๆ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น คือกุญแจสำคัญอีกดอกที่จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจได้อย่างต่อเนื่อง

WHY = การเห็นคุณค่า และ รู้จักขอบคุณ 
การจะมีพลัง แรงบันดาลใจได้อย่างต่อเนื่อง คือ ต้องรู้บุญคุณของสิ่งที่มี และรู้จักขอบคุณสิ่งเหล่านั้น

No WHY vs Know WHY
เมื่อรู้ชัด...ทำไมต้องทำ และรู้ว่าจะทำอย่างไร จะแสดงออกอย่างไร นั่นคือ เกิด passion แล้ว passion คือ  พลังภายใน ที่ขับเคลื่อนชีวิต พิชิตความฝัน

Passion ที่มีสามารถพกพาติดตัวไปยังทุกแห่งหน การมี Passion กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหมายถึงเราทำสิ่งเหล่านั้นอย่างเต็มที่และมีความสุข ไม่ว่าจะทำอะไร จะไปที่ไหน มันจะทำให้เราเป็นคนที่เต็มไปด้วยพลัง ความกระตือรือล้น ความมีชีวิตชีวา และความสุข  เพื่อการมีชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ

อย่าลืมว่า... เราคือผู้สร้างและควบคุมตัวเอง เราไม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ ไม่สามารถควบคุมคนอื่นๆ และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกได้ แต่เราควบคุมตัวเองได้ว่าจะคิดหรือตอบสนองอย่างไรกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น 

ชีวิตของเราในวันนี้....เราเลือกเอง ไม่ว่าดีหรือร้าย สำเร็จหรือล้มเหลว เกิดจากทางที่เลือกเอง ต้นเหตุของทุกผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือตัวเอง ต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง 100%

เรามีโอกาสที่สามารถทดลองสิ่งใหม่อยู่เสมอ โลกในทุกวันนี้มีโอกาสมากมาย หากไม่ชอบอะไร ก็ย้ายก็เปลี่ยน คนเรามีโอกาสและความสามารถที่จะทำทุกสิ่งที่ตัวเองต้องการ

แผ่นสรุป  



รู้ตัวเอง รู้การปฎิบัติของตัวเอง รู้เวทีรู้ขั้นตอนและ live your WHY 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น