ท่านนัน: มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เหนือเหตุผล คือ ธรรมชาติ
ในใจพูดว่า: ฟังแล้วงงไปสามวิ...นังบัวใต้น้ำ
เหตุผลไม่ตอบสนองเรา = ทุกข์
สร้างความไม่สมดุลย์
ในใจพูดว่า: อือ..ชักเข้าท่า มันไม่สมดุลย์จริงด้วย
ท่านนัน: ตามเหตุผล หาเหตุผล = โง่
มนุษย์ที่มีเหตุผล = โง่
มนุษย์ที่มีเหตุผล = ไม่พัฒนา
ในใจพูดว่า: หูย...มิน่าไม่ค่อยพัฒนากันเลย มัวโง่อยู่ได้ ตามหาเหตุผลมาสนับสนุนความเชื่อตัวเอง ให้สุขลมๆแล้งๆอยู่ได้ หาแต่เหตุผล หาแต่หลักการอะไรกันนี่ ยุ่งจริงๆ ไปไม่เป็นเลย
ท่านนัน: ต้องอยู่เหนือเหตุผล = สมดุลย์
อยู่เหนืออารมณ์ อยู่เหนือคนอื่น
ธรรมชาติ = สมดุลย์
ในใจพูดว่า: จริงแล้วเจ้าค่ะ อารมณ์มันพาไปหาเหตุเดือดร้อนจริงๆค่า อยู่กับธรรมชาติตัวเอง อยู่กับธรรมชาติคนอื่นไม่เป็นเลยค่า ที่ซวยคือ ไม่รู้จักตัวเอง หงุดหงิด โมโหก็ไม่ค่อยจะรู้ตัว และยังไปทะลึ่งช่วยชาวบ้านหาเหตุผลที่เขาเป็นอีกด้วย ซวยจริงจริง
ท่านนัน: อย่าปฎิเสธธรรมชาติ จะได้เบิกบาน
ผิดธรรมชาติ ไม่เบิกบาน
ในใจพูดว่า: ไม่เอาแล้วค่ะ ไม่แล้วจริงๆ เพราะปฎิเสธแล้วมันเอียงเลยค่ะ หาจุดยืนธรรมชาติไม่เจอเลยค่า
ท่านนัน: คนเรา ความชัดเจนในมุมมองต่างกัน เป็นธรรมชาติ
ญาติโยมรันทด: พ่อแม่ห่วงลูกทุกเวลา ทำไมลูกไม่ห่วงพ่อแม่ทุกเวลาบ้าง
ท่านนัน: พ่อแม่ห่วงลูกทุกเวลา เป็นธรรมชาติ
ลูกห่วงพ่อแม่บางเวลา เป็นธรรมชาติ
ในใจพูดว่า: เข้าทางเลยฮ่ะ
ท่านนัน: เราเห็น เขาเห็น..คนละเรื่อง คนละอย่าง เป็นธรรมชาติ
ในใจพูดว่า: นั่นซิฮะ จะไปหาเหตุผลทำไม ไม่ต้องทำไมแล้ว มันเป็นธรรมชาติ
ท่านนัน: ทุกข์ แนะนำได้ ห้ามไม่ได้
ในใจพูดว่า: แต้เลย คนมีทุกข์ ห้ามไม่อยู่ มันเป็นธรรมชาติของเขาฮ่า ต้องปล่อยไป
ท่านนัน: ทุกอย่าง = กรรม
อายตนะ มันหนัก เจอลมก็เอียง
ในใจพูดว่า: กรรมใคร กรรมมันแล้วกันนะโยมเอ๊ย...
ท่านนัน: เย็น = มงคล
ร้อน = อัปมงคล
ในใจพูดว่า: ฮู้ย ถูกใจ
ท่านนัน: สุข โรค หาย อายุยืน
ทุกข์ โรค เยือน อายุสั้น
ในใจพูดว่า: เอาไงเอากันท่านผู้ชม...มันเป็นธรรมชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น