วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กิเลสอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น



การชื่นหน้าอยู่ในสังคม หรือ การดิ้นรนรักษาผลประโยชน์ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ให้เวลาแก่ผลประโยชน์มากกว่าคุณภาพของชีวิต เอาใจคนอื่นเกิดความจำเป็น หรือ ต้องคอยพูดประจบสอพลอเอออวยคนอื่นเพื่อผลประโยชน์นั้นท่าทางจะคิดว่าตัวเองฉลาด อย่าลืมว่าความฉลาดทำให้ตัวเองไม่มีเวลา ไม่รู้เวลาและไม่เป็นเวลา    ซึ่งตรงกันข้ามกับการมีน้ำใจแท้จริง มีความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมากับความรู้สึกของตัวเอง มีหลักการ มีความยุติธรรมนั้น คนรับไม่ได้ กลายเป็นว่าเราโง่ ไม่รู้จักกอบโกย น้ำขึ้นไม่รีบตัก ไม่รักพวกพ้อง ก็ยอมไปเถอะ ยอม... ให้คนว่าโง่ดีกว่าจะเป็นคนไร้น้ำใจ ไร้หลักการ ไม่ซื่อสัตย์ ไม่ยุติธรรม ทำอะไร อยู่กับใครก็ควรมีน้ำใจ ตรงไปตรงมา แม้จะไม่ถูกใจใครไปบ้าง ไม่โชคดี ร่ำรวยเหมือนคนอื่น แต่เราก็สบายใจเป็นพอ ไม่ต้องหวาดระแวงอะไรมาก   โง่ๆนี่แหละหัวถึงหมอนเมื่อไรเป็นหลับยาวตลอดคืน  ยอมเป็นคนโง่เสียบ้าง ยอมถูกด่าเสียบ้าง ก็สบายใจดีเหมือนกัน  ขอให้โง่แต่รู้จักให้ รู้จักรัก รู้จักรอ รู้จักพอ และรู้จักเกรงใจกันบ้าง..โง่ไม่เอาแต่ใจเกินไป วิ่งตามกิเลสเกินไปก็น่าจะดีกว่า.. คิดเสียว่าในโลกนี้เมื่อเราทำอะไร พูดอะไรมันจะมีทั้งคนดีใจและเสียใจ เป็นธรรมดา.. แต่อย่าทำให้คนอื่นเสียใจบ่อยด้วยคำพูดที่บาดใจ แล้วบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ถนอมๆน้ำใจกันหน่อยก็ดีนะ   ภาษาดอกไม้ น้ำใสใจจริง ไม่เสียหาย... และตัวเราเอง..เวลาดีใจ ไม่ควรดีใจจนหน้ามืดตามัว เวลาไม่ถูกใจ เศร้าก็ไม่ควรเศร้าหรือโมโหเสียจนละทิ้งหลักการที่ถูกต้อง..ยามตกอับ ไม่ต้องตกใจ มันมีเวลาขึ้น แต่เวลาชั่วต้องรู้จักกลัว..รู้จักละอาย ที่สำคัญไม่มีใครที่ชั่วแล้วได้ดีตลอด ความสุขถ้าอยากได้..ต้องลงแรงเองทั้งนั้น
โลกนี้มันสมมุติล้วนๆ ขนาดวันที่ว่าเป็นวันสำคัญ วันเกิด วันโกนมันไม่มี เสาร์ อาทิตย์หรือวันจันทร์ก็ไม่มี ตีห้า ห้าทุ่มก็ไม่มี นับมันกันเองทั้งนั้น.. อย่าตกเป็นทาสวันสำคัญ..อย่าตกเป็นทาสอะไรที่ไม่สำคัญหรือไม่ถูกต้อง เพราะมันไม่มีจริง..พระท่านว่า..โง่ๆไปเลย กิเลสจะเหลือน้อย..ฉลาดมาก พยายามมาก..กิเลสสะสมมาก..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น