สรรพคุณของการล้างพิษตับมีให้อ่านมากมาย ไม่ต้องพูดถึงให้ซ้ำซาก แต่อยากเล่าประสบการณ์อดข้าวสามวันครั้งแรกในชีวิตมากกว่า อันที่จริงคนเรานั้นจะอดอะไรมันอดได้ทั้งนั้น มันอยู่ที่ใจ การมาล้างพิษตับและต้องอดข้าว คือ สามวันนี้ไม่ได้เคี้ยวอะไรเลย ไม่คิดว่าจะอยู่ได้ มันก็อยู่ได้..ออกจะดีด้วยซ้ำ ได้รู้ขีดสมรรถนะร่างกายตัวเองเลยว่าทนทานแค่ไหน โปรแกรมล้างพิษตับของ "บ้านล้างพิษตับ เชียงใหม่" นี้โมดิฟายมาจากของอาจารย์ขวัญดินแห่งค่ายผู้นำของท่านมหาจำลอง ดูไปดูมาแล้วเป็นเรื่องหักดิบกันพอควร คือไปถึงบ่ายสองวันศุกร์ ก็ไม่ให้กินอะไรแล้ว อุตส่าห์หิ้วหมูทอดที่กินมาระหว่างทางไปด้วยก็ต้องทิ้งไปอย่างแสนเสียดาย
ที่กินแทนข้าวมีไม่กี่อย่างในการนี้ มีแค่ลิดท็อกซ์ (สมุนไพรเขียวๆกินผสมน้ำมะขาม) สมุนไพรชำระเมือกมันตอนแรก 2 ตอนหลัง 4 แคปซูล น้ำชาสมุนไพร น้ำมะขาม วนเวียนกันอยู่แค่นี้สองวัน อย่าคิดว่าเยอะนะ ปริมาณแค่แก้วกาแฟเล็กเท่านั้นและกินเป็นเวลา ไม่ใช่หิวแล้วจะกินได้ ยกเว้นชาสมุนไพรที่กินตอนเช้า..อันนั้นต้อง 5 แก้ว และวันก่อนสุดท้ายมีน้ำแอบเปิ้ล น้ำมะละกอ น้ำดอกบัว (ดีเกลือ) น้ำมะกอกผสมน้ำมะนาว.. กินแค่นี้จริงๆ อันนี้ยังไม่นับสวนล้างลำไส้เช้าเย็นให้เพลียเล่นๆไปทุกวันนะ
อาการตอนบ่ายที่เข้าไปใหม่ๆไม่เท่าไหร่ แต่วันรุ่งขึ้นนั้น..โหย วิงเวียนอย่าบอกใคร เพื่อนถึงกับอ้วกและตาลายคล้ายจะเป็นลมเพราะแพ้ลิดท็อกซ์อย่างแรง ประกอบกับเธอธาตุลม..เลยเป็นลมเรอเอิ้กอ้ากอยู่ตลอด ไอ้เราก็เดี้ยงอ่อนแรง เดินลงบันไดถึงขั้นสาวลงมาเลย ตื่นตีห้าก่อนสวนล้างลำไส้ก็คิดถึงข้าวนึ่งใส่อั่วอย่างแรงทุกที แต่ก็นะ มาแล้วเอาให้มันสุดๆไป คนอื่นคนแก่กว่าเราเขายังทนได้ แถมมีเพื่อนสาวยังอุตส่าห์ขอลาขับรถลงดอยไปสอนนักศึกษาได้อีกด้วย ข่าวว่าขับไปใกล้จะหลับไปเพราะตื่นเช้ามากแถมสวนล้างพิษเข้าไปอีก
ยังดีที่ไม่มีให้ออกกำลังกายหนักๆ แค่เดินก็แผ่วแล้ว โปรแกรมนี้ดีมากตรงที่ให้มีเวลาส่วนตัวเยอะ ใครเอางานไปทำก็ได้ อ่านหนังสือ ดูทีวี เล่นเฟซบุค เล่นเกมไปแล้วแต่จริตที่จะทำให้ไม่หิว สำหรับตัวเองนั้น ใช้วิธีนอน อ่านหนังสือ และเฟซบุคไปพลางๆซึ่งไม่ทำให้หายหิวและวิงเวียน เลยต้องอาศัยหมอนวด วันแรกชั่วโมงเดียว วันที่สองขอสองชั่วโมงเลย จึงเพลินไป..อยู่ได้ในช่วงบ่าย
อันที่จริงจะว่าหิวก็ไม่เชิง มันเป็นความอยากมากกว่า เพราะสำรวจตัวเองจริงๆแล้วมันไม่หิวนะ มันอยู่ได้สบายๆ แต่ใจนี่แหละมันคอยจะอยากอยู่เสมอๆ มันเป็นเรื่องติดกินมากกว่า ไม่ได้เพราะว่าหิวถึงต้องกิน เพราะชีวิตนี้ไม่เคยรู้จักว่าหิวจนตาลาย หิวจนจะเป็นลมมันเป็นยังไง ปกติ คือ ไม่ทันได้หิวก็ดันกิน คนเรามันกินแค่เช้า กลางวันก็พอนะ เพราะน้ำย่อยมันเลิกออกมาย่อยไปตั้งแต่บ่ายแล้ว มันอยู่ได้ ไม่ตายและยังสบายดีอีกต่างหาก
ที่ดีมากของการอดข้าวคราวนี้ คือ ทำให้รู้ว่าเรามีของเสียค้างอยู่ในตัวแน่ๆ และท่าทางจะเน่าติดอยู่กับร่างกายเรามาเป็นปีเป็นชาติ เพราะขนาดไม่ได้กินอะไรเลยมันไม่ควรมีกากใยอะไรออกมา พอกินไอ้ล้างเมือกมันเข้าไป ระบายของเสียทุกครั้งก็มีกากออกมาด้วยทุกทีไป ที่แปลกไปกว่านั้น คือ วันสุดท้ายหลังจากกินน้ำมันมะกอกผสมมะนาวตอนสิบโมงกลางคืน ที่ใครเขาว่ามันยากเย็นแสนเข็ญ มันก็ไม่ยากเลย แม้แต่เพื่อนที่อ้วกแล้วอ้วกอีกยังสามารถกลืนเข้าไปได้จนหมด แต่ปริมาณมันน่ากลัวไปนิดนึงนะ ขนาดแม่โขงแบนนึงข้นคลั่กราวกับน้ำสลัดน้ำใสแต่ขุ่นๆกว่า รสเข้มข้น คนปรุงเก่งมาก พอวันรุ่งขึ้นตอนรายการตรวจของเสียโชว์กัน แม่เจ้ามายก้อด.. อะไรต่อมิอะไรมันไม่รู้มาจากไหน ของบางคนดำ บางคนเขียว กลิ่นนี่สุดแสนจะทนทีเดียว แต่เขาถือเป็นการเรียนรู้ก็มายืนรุมดูกันเป็นที่สยองขวัญ ที่ออกมาแบบไม่น่าจะมี ไม่รู้มาก่อนว่ามีในร่างกายเรา คือ นิ่วในถุงน้ำดี ไขมันที่เกาะตับ ไขมันที่สะสมเกาะติดมาเป็นชาติมาเป็นเม็ดๆเลยเชียว ของเราพิเศษดันมีเซลล์มะเร็งออกมาด้วย เอาเข้าไป.. มีบางคนมีเม็ดเลือดแดงที่เสียออกมาปรากฎ คือส่วนใหญ่จะคล้ายๆกันแต่มากน้อย อาการหนักเบาต่างกัน ไอ้ที่ว่าประหลาด คือ มันมาจากไหนเนี่ย นี่มันมาจากร่างของเราหรือนี่ จะว่าเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เพราะไม่ได้ฟาดอะไรเลยมาสามวัน มันมหัศจรรย์จริงๆ และเพื่อนๆที่ไปด้วยกันก็จะมีอีแบบนี้ออกมาเหมือนกัน ก็มันกินของไม่ดีๆเหมือนกันด้วยกันมาตลอดชีวิต มันก็ต้องเหมือนกันนั่นหละ มีของน้องคนนึึงค่อนข้างใสดีเนื่องจากแม่นางกินเจบ่อยๆ แต่ก็มีไขมันอยู่นะ เพียงแต่ลำไส้เขาสะอาดกว่าพวกเราเยอะ
เห็นแล้วปลงนะ ไอ้หน้าตาสวยๆหุ่นดี ขาวใส หล่อเหลาเกาหลี...ข้างในเน่าสนิทกันทุกคนไม่มีเว้น จริงๆแล้วเหม็นเน่ากันทั่วหน้า ไม่เชื่อก็ลองมาทำ.. จะรู้แจ้ง
ตับนี่มันสำคัญจริงนะ มันมีหน้าที่ตั้งสองร้อยกว่าอย่างในร่างกายคนและคนเดินมาสิบคนจะมีไขมันพอกตับไปซะเก้าคน คิดดูว่าไขมันที่พอกจะทำให้มันเหนื่อยขนาดไหน และมันเก่งมากนะ ถึงจะเหลือใช้การได้สิบยี่สิบเปอร์เซนต์ มันก็ยังทำงานอย่างขยัน เราเลยตายใจ..รู้อีกที แปลว่าป่วยเกินเยียวยาไปแล้ว พระพุทธเจ้าของเรานั้นพระองค์เป็นผู้รู้แจ้งแทงทะลุทุกอย่างจริงๆทั้งในและนอก ท่านเองก็ล้างพิษตัวเองไปถึง 30 ครั้ง รู้การทำงานกลไกของร่างกายยิ่งกว่าหมอคนใดในโลก แค่ให้พระฉันสองมื้อนี่ก็ถือว่าสุดๆแห่งความรู้แจ้งแล้ว อะเมซซิ่ง สาธุ สาธุ สาธุ
ตัวช่วยในการอดข้าวครั้งนี้อีกอย่าง คือ สถานที่..บุหลันบุรีนี่เป็นรีสอร์ตที่น่ารักมาก แต่พวกคุณนายไม่ต้องนะ เพราะมันอยู่ชนบท แวดล้อมไปด้วยภูเขานาขั้นบันได มีสระบัวที่ดอกบัวบานตอนเช้าพอชุ่มชื่นใจหายเพลียไปได้บ้างตอนเดินอมน้ำมะพร้าว กระท่อมและเรือนพักก็ตกแต่งได้น่ารักสมกับสถานที่ อากาศดี ต้นไม้ดอกไม้สวย แต่ถ้าคนไม่ชอบแมวก็คงลำบากใจ เพราะมีแมววิ่งกันเป็นพรวน ถึงไม่มาล้างพิษ..ที่นี่ก็เป็นที่พักฮิปที่หนึ่งที่น่ามาใช้เวลาชิวอยู่นานๆได้ มีวายฟาย สัญญาณโทรศัพท์พร้อม เสียแต่ตอนอดนี่ดันมีเขียนเมนูไว้บนกระดานใหญ่มาก เดินผ่านแล้วอยากฆ่าตัวตาย.. อดๆมานี่เห็นแค่เขียนว่าข้าวกระเพราไก้ไข่ดาวก็หนาวแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น