วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หลอกกันเล่นหรือเปล่า


เข้าใจอยู่ว่า..ชีวิตที่อยู่ด้วยกันทุกวันนี้ มันหลอกใช้กันไปวันๆ
โดยบางทีรู้ตัว บางทีไม่รู้ตัว
เราหลอกคนอื่นมั่ง..โดนหลอกมั่ง..
ไอ้การที่หลอกใช้กันแบบรู้ตัวนี่มันไม่เนียน... สักวันต้องรู้
เหมือนตีนติดสีในรูปนั้่นแหละ ยังไงยกขึ้นมาก็เห็นสีอยู่วันยังค่ำ

มันเป็นกลไกที่น่าประหลาดใจกับการเอาตัวรอดของมนุษย์โลก
การสังคมกัน..คือ การหลอกใช้กันชัดๆ
(มิน่า..พระถึงปลีกวิเวก)
...ยิ้ม แปลว่า เริ่มหลอกให้มีไมตรีจิต
...ทักทาย แปลว่า..หลอกให้พูดด้วย
ทำไปแบบไม่มีสติ..มันเป็นของมันเอง
อันนี้ธรรมดา..หลอกเล็กๆ อภัยให้ตัวเองได้

แต่มันมีซับซ้อนกว่านั้น.. ที่หมักหมมจนเป็นนิสัยถาวรของคน
มันคือ..การใช้คำพูดของเรา..มันหลอกขนานใหญ่
มันเป็นความตั้งใจที่ปราศจากสติ..เป็นมิจฉาทิฐิที่เราต้องการบางอย่างจากคนอื่น
แต่ไม่ยอมขอโดยตรง.. พูดอ้อมโลก ยกแม่น้ำ หรือใช้กลวิธีต่างๆ
(จะขอ..ก็ยังกลัวจะเป็นบุญคุณ)
เลยหลอกเอา..เพราะคิดว่ามันไม่รู้..มันก็คือนึกว่าคนอื่นโง่นั่นเอง

การขอตรง..พูดตรง มันอาจทำให้เราไม่ได้ดังใจ
แต่มันก็เป็นการแสดงความเคารพกัน จริงใจกัน..สำคัญ คือ ไม่หลอกกัน
มันไม่สำคัญที่เราจะได้ หรือ ไม่ได้ดังหวัง
ความสำคัญ คือ ความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์บนพื้นฐานของความสุจริตใจ
ความตรงไปตรงมา...
ซึ่งคิดว่าต้องหัดกันใหม่...มาฝึกกันดีกว่า
เอาให้ตรง ให้ชัด..

มันอาจบาดใจ..แต่มันจริง ก็คงพอรับกันได้
หรือถ้ารับไม่ได้...ก็เรื่องของใครของมันแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น