การปฏิบัติ หรือการแสดงวาจา ภาษา ท่าทาง และพฤติกรรมต่าง ๆ ออกมาให้ปรากฏแก่สายตาของคนอื่น เราเรียกว่า มารยาท เป็นคุณลักษณะประจําตัวของคน เช่น การมีสัมมาคารวะ ความสุภาพ อ่อนน้อม ความมีวินัย เป็นต้น แค่ความสามารถทางการบริหารจัดการไม่เรียกว่าการจัดการที่ดี เพราะการจัดการที่ดี..ต้องมีมารยาทด้วย มารยาทเป็นการแสดงความเคารพให้เกียรติกัน คนปัจจุบันที่เรียกตนเองว่า คนยุคใหม่ และชอบทําอะไรแบบง่าย ๆ ถือเอาความสะดวกสบายเป็นหลัก พฤติกรรมท่ีแสดงออกมาในบางครั้งจึงกลายเป็นคนไร้มารยาทไปได้โดยง่าย
คือว่า...รวยอย่างเดียวไม่ได้ บริหารธุรกิจแล้วร่ำรวย ไม่ได้แปลว่ามีการจัดการที่ดี เพราะการจัดการที่ดีและมีมารยาทเท่านั้น จะทำให้เกิดการยอมรับนับถือ เป็นคนมีเกียรติ ไม่ใช่มีแต่ตำแหน่ง มีแต่เงิน !!
มารยาทนั้นไม่ได้เป็นเรื่องยาก
1. เกรงใจไม่ถือวิสาสะ
เบื้องต้นแค่รู้จักเกรงใจไม่ถือวิสาสะก็ดีแล้ว เกรงใจ คือ การรู้จักระวังความรู้สึกของคนอื่นในเรื่องต่างๆ เช่น การจะขอความช่วยเหลือไม่ควรกระหน่ำขอ การจะไปพบการจะโทรศัพท์ไปหาต้องดูเวลา การไม่ถือวิสาสะแปลว่าต้องขออนุญาต...แม้แต่คนเป็นลูกน้อง
2. มารยาทในการพูด
การมีมารยาทในการพูด ไม่ต้องถึงขนาดเจ้าคะ เจ้าขา ครับผมตลอดเวลา อันนั้นเอียน too nice แค่ไม่เพ้อเจ้อ คือ ออกนอกลู่นอกทางนอกเรื่องที่กําลังเป็นประเด็นสําคัญ หรือสั่งพรํ่าเพรื่อ ตอกย้ำเพราะกลัวคนจะลืม พูดบ่อย ๆ จะถือว่าเป็นการเสียมารยาทเลยนะ อีกอย่างที่เจอบ่อยในการพูด ถึงแม้จะเป็นนอกเวลางานของกลุ่มผู้บริหารชาย คือ การพูดตลกคะนองลามก แสดงความอยากแมนด้วยการพาดพิงผู้หญิงเหมือนเป็นเครื่องเล่น อันนี้ถือว่าไร้เกียรติ ไร้มารยาท ไม่แมน กรุณาให้เกียรติเพศแม่ของตัวเอง
3. ระมัดระวังตัวและอ่อนน้อมถ่อมตน
มารยาทเป็นเรื่องของการระมัดระวังตัวและอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เหลียวหน้าเหลียวหลัง เลิกลั่ก หรือทําตัวเป็นจุดเด่น โวยวาย กรี๊ดกร๊าดเหมือนคนมีปัญหา และไม่แสดงอาการหยิ่ง จองหองให้น่ารำคาญ
4. ตรงเวลา ตั้งใจ ไม่แซงคิว
การมาสาย ใช้เวลายืดเยื้อ คือ ความไม่มีมารยาท ไม่ต้องอ้างอย่างอื่น ทุกอย่างถ้าวางแผนล่วงหน้า มีการเผื่อ จะรักษาเวลาได้ ถ้าทำไม่ได้ คือ ไม่ใส่ใจเพียงพอ การแสดงความสนใจ ตั้งใจเป็นมารยาทด้วย ที่เห็นบ่อย คือ ใช้ความเป็นผู้บริหาร “แซง” ชาวบ้านไปทุกเรื่อง พูดแทรก แซงคิว ขอก่อน กินก่อน ได้ก่อน แบบนี้ไม่น่ารัก ไม่มีน้ำใจ
1. เกรงใจไม่ถือวิสาสะ
เบื้องต้นแค่รู้จักเกรงใจไม่ถือวิสาสะก็ดีแล้ว เกรงใจ คือ การรู้จักระวังความรู้สึกของคนอื่นในเรื่องต่างๆ เช่น การจะขอความช่วยเหลือไม่ควรกระหน่ำขอ การจะไปพบการจะโทรศัพท์ไปหาต้องดูเวลา การไม่ถือวิสาสะแปลว่าต้องขออนุญาต...แม้แต่คนเป็นลูกน้อง
2. มารยาทในการพูด
การมีมารยาทในการพูด ไม่ต้องถึงขนาดเจ้าคะ เจ้าขา ครับผมตลอดเวลา อันนั้นเอียน too nice แค่ไม่เพ้อเจ้อ คือ ออกนอกลู่นอกทางนอกเรื่องที่กําลังเป็นประเด็นสําคัญ หรือสั่งพรํ่าเพรื่อ ตอกย้ำเพราะกลัวคนจะลืม พูดบ่อย ๆ จะถือว่าเป็นการเสียมารยาทเลยนะ อีกอย่างที่เจอบ่อยในการพูด ถึงแม้จะเป็นนอกเวลางานของกลุ่มผู้บริหารชาย คือ การพูดตลกคะนองลามก แสดงความอยากแมนด้วยการพาดพิงผู้หญิงเหมือนเป็นเครื่องเล่น อันนี้ถือว่าไร้เกียรติ ไร้มารยาท ไม่แมน กรุณาให้เกียรติเพศแม่ของตัวเอง
3. ระมัดระวังตัวและอ่อนน้อมถ่อมตน
มารยาทเป็นเรื่องของการระมัดระวังตัวและอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เหลียวหน้าเหลียวหลัง เลิกลั่ก หรือทําตัวเป็นจุดเด่น โวยวาย กรี๊ดกร๊าดเหมือนคนมีปัญหา และไม่แสดงอาการหยิ่ง จองหองให้น่ารำคาญ
4. ตรงเวลา ตั้งใจ ไม่แซงคิว
การมาสาย ใช้เวลายืดเยื้อ คือ ความไม่มีมารยาท ไม่ต้องอ้างอย่างอื่น ทุกอย่างถ้าวางแผนล่วงหน้า มีการเผื่อ จะรักษาเวลาได้ ถ้าทำไม่ได้ คือ ไม่ใส่ใจเพียงพอ การแสดงความสนใจ ตั้งใจเป็นมารยาทด้วย ที่เห็นบ่อย คือ ใช้ความเป็นผู้บริหาร “แซง” ชาวบ้านไปทุกเรื่อง พูดแทรก แซงคิว ขอก่อน กินก่อน ได้ก่อน แบบนี้ไม่น่ารัก ไม่มีน้ำใจ
คงจะมีอีกเยอะ เอาแค่นี้ให้ได้ก็งามแล้ว ไม่ต้องถึงขนาดเป๊ะแบบมารยาทในการรับประทานอาหารแบบฝรั่ง อันนั้นไปหัดเอาจากแถวโรงแรมได้ แต่ที่เกริ่นๆไปนั้นมันเป็นเรื่องที่ต้องติดตัว ติดให้เป็นคุณลักษณะประจําตัวไป
จัดการเก่งแค่ไหน มารยาทไม่ดี ราศีบารมีไม่เกิด !!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น