วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

คิดวันละอย่าง # 246

ความสุขเป็นงานหนักของคน
คนที่มีความสุขมากๆส่วนใหญ่เป็นคนที่มุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างให้เกิดความสุข เป็นงานที่หนักหนาทีเดียว เพราะต้องใช้การควบคุมตัวเองอย่างยิ่งยวด มันเป็นเรื่องที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อของอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดทุกข์เพื่อดึงเอาพลังกลับมายังตัวเอง...ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 
ชีวิตคนเป็นซีรี่ส์ของการพัฒนาและเติบโตส่วนบุคคล 
สิ่งที่นับได้ว่าเลวร้ายที่สุดในการขัดขวางการพัฒนาตัวเอง คือ การนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะมันจะเลยเถิดไปเป็นการอิจฉาริษยา อยากได้อยากมีในสิ่งที่ตัวเองไม่มี อันนี้หนักมากโดยเฉพาะเวลาเข้าไปยังพวก social media ต่างๆ อย่าลืมว่าคนใน social media นั้นจะแสดงออกเฉพาะเรื่องที่อยากอวด มันมีแต่เรื่องดีๆ โชว์ส่วนดีที่สุดที่มีในขณะนั้น ถ้าคิดว่าอยากเป็นแบบนั้น อยากทำแบบนั้นนี่จะโอละพ่อมาก ไม่ใช่แค่มันจะเบี่ยงเบนความชื่นชมในสิ่งที่เป็น สิ่งที่มีของตัวเอง กลายเป็นว่ามันไม่ได้ทำให้เรามี productive input ให้ตัวเองเลย การรับรู้ในชีวิตคนอื่นกลายเป็นความเชื่อผิดๆ เป็นความเข้าใจผิดๆไปซะงั้น ถึงแม้จะไม่ได้คิดแบบนั้น มันก็ยังต้องโฟกัสที่ตัวเองอยู่ดี เพราะทางของเราเท่านั้นที่เราควรนำมาพิจารณาให้ดี ไม่ใช่สนใจแต่เรื่องชาวบ้าน 
ความสุขของคนเป็นเรื่องต้องฝึกฝน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการละวางตัวตน วางอีโก้ตัวเอง หรือการวางโครงสร้างความสุขในชีวิตและการรักตัวเอง พวกนี้ล้วนแต่ต้องฝึกหนักทั้งนั้น ชีวิตเดียวนะ ต้องทุ่มเทอย่างแรงเพื่อให้มี version ที่ดีที่สุดของตัวเอง

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

คิดวันละอย่าง # 245

เวลาเยียวยาทุกสิ่ง

อย่าไปตัดสินในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องตัดสิน
และไม่ต้องไปรู้ในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องรู้
เพราะเมื่อถึงเวลา..ทุกอย่างจะคลี่คลายไปเอง

การตัดสินในสิ่งที่ไม่รู้จริง 
แต่เอาบรรทัดฐานของตัวเองมาวัดคนอื่นนั้น 
....ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน...
ถึงแม้จะเป็นเรื่องเลวร้ายแค่ไหน
มันก็เป็นเรื่องของคนๆนั้นไม่ใช่หรือ
แสดงความเห็นได้ แต่ไม่ต้องใส่อารมณ์ 
ใส่อารมณ์ปุ๊บ...มันแปลว่าตัดสินปั๊บ

บางเรื่อง...คนต้องเรียนรู้และรับผลที่เกิดขึ้นเอง
ความหวังดีบางทีมันล้ำเส้น !! 
ปล่อยให้เวลาเป็นตัวเปิดเผยทุกสิ่ง
ซึ่งในที่สุดมันจะทำให้คนได้เรียนรู้และตัดสินใจได้เอง 

เดือนดับยังต้องอาศัยเวลากว่าเดือนจะสว่างนะ 


อดีต ปัจจุบันและอนาคต

Lao Tzu กล่าวว่า 
“ถ้าเศร้าหมอง ชีวิตคุณอยู่กับอดีต 
ถ้ากระสับกระส่าย ชีวิตคุณอยู่กับอนาคต
แต่ถ้ามีความสงบ ชีวิตคุณอยู่กับปัจจุบัน”

คนเรามันมีความกังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง และจมอยู่กับบางอย่างที่ได้เกิดขึ้นไปแล้ว ในขณะที่คิดถึงอนาคต ก็อย่าลืมปัจจุบันเพราะทุกขณะในปัจจุบันมันจะเปลี่ยนเป็นความทรงจำในทันทีที่เวลาผ่านไป เอนจอยกับทุกขณะที่มีเถอะ 

และ คนเรากว่าจะรู้ได้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะทุกข์กับสิ่งที่ผ่านไปก็อาจใช้เวลาเกือบทั้งชีวิต ซึ่งมันน่าเสียดาย การจมอยู่กับอดีตมันไม่ productive เอาแค่ว่าถ้าจะคิดเรื่องอดีตก็ถือเป็นการทบทวนไป ทบทวนว่าตัวเองผ่านอะไรมาบ้าง และอะไรที่สำคัญจริงๆสำหรับชีวิต การนี้อาจต้องใช้พลัง แรงใจรวมทั้งความเสียใจเยอะหน่อยในการก้าวข้ามไป แต่คุ้มค่าแน่นอน 

การสร้าความสมดุลในเรื่องอดีต อนาคตนี้จะทำให้เราสามารถเลือก สามารถเรียงลำดับว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป มันเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองจริงๆ 


วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ไม่มีอะไรจีรัง

เวลาดีดีก็แค่ชั่วคราว เวลาแย่ๆก็แค่ชั่วคราวเหมือนกัน
ดังนั้น เมื่อมีเวลาดีดีก็เอนจอย ชื่นชมไป
พอเจอเรื่องแย่ๆ ก็แค่ต้องรู้ว่ามันจะผ่านไปในที่สุด
โลกยังไม่แตก มันขรุขระไปหน่อย
ชีวิตมีขึ้นมีลง มีลดมีเลี้ยว มีเปรี้ยวมีขม
มัน คือ journey ไม่ใช่ destination
ทุกอย่างเป็นเรื่องชั่วคราวตามวิถีชีวิต
คนเราก็แค่ make the most out of all of it 😊

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

การรับรู้ คือ เรื่องสำคัญ


มันคือเรื่องจริงนะ วิธีที่เราตีความและเข้าใจโลกมันส่งผลตรงต่อความเชื่อ วิถีการดำรงชีวิต 
การรับรู้ของเราสร้างอคติพอๆกับสร้างความเข้าใจ สร้างความกลัวพอๆกับสร้างความอยากรู้อยากเห็น แล้วอะไร คือ สิ่งที่คนต้องรับรู้ การเปิดกว้างให้ตัวเองรับรู้แค่ไหนจึงเพียงพอ ส่วนใหญ่คนต้องการรู้มากกว่าที่รู้ สังคมเน้นความสำคัญของการศึกษา การเรียนรู้ การค้นคว้าคือสิ่งที่เราทำมาตลอด แต่ทว่าการศึกษาก็ไม่ได้ทำให้เรารับรู้และเข้าใจอะไรมาก มันยิ่งยากเข้าไปอีก 
แล้วเราจะเรียนรู้ยังไงในสิ่งที่ไม่รู้ จะต้องรับรู้อะไรยังไง? 
มันคงต้องเริ่มที่ถามตัวเองไปว่า อะไรที่เราไม่รู้และเราต้องการเรียนรู้มากขึ้นในเรื่องใด มันขึ้นกับการ “อยากรับรู้” ของเราแล้ว ไม่ได้ขึ้นกับว่าสังคมต้องการให้เรารู้เรื่องอะไร 
แต่สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ คือ การผิดไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะมันเป็นวิถีในการเติบโตของคน มันทำให้เราขยายขอบข่ายการรับรู้ได้ดี 

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่

ข้อคิด :
ถ้าใครไม่อยากอยู่กับเรา ก็ปล่อยไป
ถ้าใครไม่ต้องการเรา ก็แค่จากไป
คุณไม่ได้อยู่ในโลกนี้เพื่อตอกย้ำให้คนยอมรับในคุณค่า
คุณอยู่เพื่อเรียนรู้ สร้างสรรค์ เติบโต และ
ใช้ชีวิตเพื่อหล่อเลี้ยง เพื่อให้ความรัก
คนที่คู่ควรเท่านั้นที่จะทำให้เรารู้สึกดี มีค่า 
อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่

คิดวันละอย่าง # 244

การเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่อายุที่เพิ่มขึ้น
มัน คือ วิธีคิดและพฤติกรรม “เป็นผู้ใหญ่”
➡️ อย่าขโมยซีน : ไม่ต้องทำตัวเด่นตลอดเวลา การพูดถึงแต่เรื่องตัวเองมันเด็กๆและน่าเบื่อ การใส่ใจ การให้ความสนใจและเรื่องราวของคนอื่นอย่างจริงใจนั่นแหละที่ทำให้เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่คิดถึงแต่ตัวเอง ใจกว้าง มีน้ำใจ เปิดโอกาสให้คนอื่นได้ฉายแสง
➡️ ถูกที่ถูกเวลา : เป็นผู้ใหญ่ต้องรู้จักกาละเทศะ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องตีหน้าเก๊กขรึมจริงจังตลอด ต้องแยกแยะได้ว่าอยู่กับใครและเวลาไหนควรเล่นหรือควรจะจริงจัง อยู่กับเพื่อนก็ติงต๊องไร้สาระได้ ซึ่งไม่ได้เสียความเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น
➡️ อย่าไร้เดียงสา : อะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบค่ะ การทำแอ๊บอินโนเซนต์ไม่ได้น่ารัก มันจงใจก่อความรำคาญแบบไม่นึกถึงใจคนรอบข้าง ต้องรู้จักสังเกตคน ความเป็นไปรอบข้าง ไม่เอาแต่ใจตัวเอง จึงจะสามารถยอมรับ เข้าใจและมีพฤติกรรมเป็นผู้ใหญ่ได้ ตอบสนองตามความจริง
➡️ ปล่อยได้ ปล่อยไป : การเงียบก็ทำให้รู้ว่าไม่พอใจได้ ไม่ต้องถึงกับโต้เถียง เอาชนะคะคาน มีอะไรที่ไม่พอใจก็แค่บอกตรงๆไป หรือแค่เดินหนีไปก็จบเรื่อง อย่าเก็บเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้สำคัญอะไรมาใส่ใจ
➡️ มั่นใจ เป็นตัวเอง : ถ้ามีบางนิสัยที่แปลก ไม่เหมือนชาวบ้านและมันไม่ได้ส่งผลต่อการเข้าสังคม ไม่ได้ทำร้ายหรือทำให้ใครเดือดร้อน ก็ยอบรับและแสดงตัวตนที่แท้จริงไปได้ ไม่ต้องแสร้งเป็นอะไรที่ทำให้ตัวเองต้องอึดอัดรู้สึกไม่ดีเพื่อให้ดูดี
➡️ ยืดอก รับผิดโดยดี : การยอมรับผลจากการกระทำของตัวเองถือได้ว่าสำคัญมากในการเป็นผู้ใหญ่ ทั้งคำพูดและการกระทำมันส่งผลต่อตัวเองและคนรอบข้างทั้งนั้น ถ้ารู้ว่าทำผิดก็ยอมรับ มันไม่ได้ยากแค่ขอโทษอย่างจริงจังและจริงใจ